คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตำแหน่งสรรพากรจังหวัดมีหน้าที่ตรวจเก็บภาษี ถือเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งมีกฎกระทรวงกำหนดไว้ โจทก์ไม่ปรารถนาจะฟ้องให้รับผิดเป็นส่วนตัว จึงระบุฟ้องสรรพากรจังหวัดฯ ได้ เป็นการฟ้องบุคคลทีมีตัวอยู่แน่นอนเพียงคนเดียวในจังหวัดนั้นอันมีตำแหน่งหน้าที่การงาน
การนำทองมาจ้างให้ทำทองรูปพรรณแล้วเจ้าของมารับคืนไป ไม่ใช่การซื้อ เงินค่าจ้างค่าแรงให้ทำทองเงินรูปพรรณไปใช่เงินค่าซื้อโภคภัณฑ์ ผู้รับจ้างไม่ต้องเสียภาษีโภคภัณฑ์

ย่อยาว

ได้ความว่า โจทก์ตั้งร้านค้าขายทองเงินรูปพรรณ และรับจ้างทำทองเงินรูปพรรณ การขายกับการรับจ้างทำโดยแยกเป็นบัญชีและเล่ม ถ้าเป็นการขายก็เก็บภาษีโภคภัณฑ์กับภาษีสำหรับเทศบาลจากผู้ซื้อ แต่กรณีผู้จ้างนำทองมาจ้างทำก็ไม่เรียกภาษีโภคภัณฑ์ จำเลยที่ ๑ เรียกเก็บภาษีเพิ่มจากโจทก์เป็นค่าภาษีโภคภัณฑ์จากจำนวนเงินค่าจ้างทำทองเงินรูปพรรณด้วย โจทก์ร้องคัดค้าน-ต่อจำเลยที่ ๒, ๓ แล้วไม่ได้ผล จึงฟ้องขอให้จำเลยคืนเงินที่โจทก์ได้ชำระไป
จำเลยให้การต่อสู้ว่า การเรียกเก็บภาษีและเงินเพิ่มภาษีนั้น ถูกต้องแล้วและจำเลยที่ ๑ ตัดฟ้องว่า โจทก์ฟ้องตำแหน่งหน้าที่ราชการซึ่งมิใข้นิติบุคคลไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ตำแหน่งสรรพากรจังหวัดมิใช่นิติบุคคล และโจทก์มิได้ฟ้องบุคคลที่ดำรงตำแหน่งนี้ จึงไม่มีอำนาจฟ้อง การส่งมอบของที่จ้างทำให้แก่ผู้จ้างเป็นการโอนการครอบครองแก่ผู้ซื้อตามความหมายในประมวลรัษฎากร ต้องเสียภาษีการซื้อโภคภัณฑ์ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องสรรพากรจังหวัดฯ เป็นการฟ้องบุคคลผู้มีตำแหน่งหน้าที่การงานนั้น ตั้องได้โดย ไม่ต้องระบุตัวการหรือชื่อคนที่ครองตำแหน่งจะต้องมีการค้าโภคภัณฑ์และได้โอนไปในการค้านั้นจึงจะต้องเสียภาษีโภคภัณฑ์ ทองและเงินไม่ใช่ของโจทก์ๆ จึงไม่ใช่ผู้ค้าโภคภัณฑ์ และการจ้างให้ทำทองเงินรูปพรรณไม่มีราคาเป็นการซื้อขายอันจะเป็นอัตราเรียกเก็บภาษี พิพากษากลับให้จำเลยคืนเงิน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตำแหน่งสรรพากรจังหวัดมีหน้าที่ตรวจเก็บภาษี ถือเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งมีกฎกระทรวงกำหนดไว้ โจทก์ไม่ปรารถนาจะฟ้องให้รับผิดเป็นส่วนตัว จึงระบุฟ้องสรรพากรจังหวัดฯ ซึ่งเป็นการฟ้องบุคคลที่มีตัวอยู่แน่นอนคนเดียวในจังหวัดนั้น อันมีตำแหน่งหน้าที่การงาน ฟ้องเกี่ยวกับจำเลยที่ ๑ จึงใช้ได้
ตามประมวลรัษฎากรมาตรา ๑๖๖ คำว่า “ซื้อ” หมายความว่ารับโอนกรรมสิทธิ์ หรือรับโอนการครอบครอง เว้นแต่รับโอนการครอบครองชั่วคราวเพื่อตรวจสอบคุณภาพหรือโฆษณา” การนำทองมาจ้างให้ทำทองรูปพรรณแล้วมารับคืนไปไม่ใช่การซื้อ แต่เป็นการมารับเอาของๆ ตนเอง ถ้าวินิจฉัยว่าเป็นการซื้อแล้ว เจ้าของก็ต้องซื้อของสิ่งเดียวถึงสองครั้งและต้องเสียภาษีโภคภัณฑ์ซ้ำสองครั้งโดยกรรมสิทธิ์ไม่เคยได้ผ่านมือกลับไปอีกเลย จำต้องคืนเงินแก่โจทก์ พิพากษายืน

Share