คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2483

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

++ไม่มีสิทธินำพะยาน++เป็นการเพิ่มเติมแก้ไขสัญญา ทำสัญญาเข่าซื้อรถยนต์ตกลงราคากัน 1200 บาท ++นี้ จะขอนำพะยานมาสืบ++ทำสัญญาซื้อขายรถยนต์++ 1500 บาท มิได้++เป็นการสืบเพิ่มเติมตามสัญญา

ย่อยาว

คดีว่าจำเลยขอซื้อรถยนตร์โจทก์ราคา ๑๕๐๐ บาท ได้ว่างเงินมัดจำไว้แล้ว ๓๐๐ บาทคงเหลืออีก ๑๒๐๐ บาท รุ่งขึ้น จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อรถยนตร์คันนั้นจากโจทก์กำหนดราคา ๑๒๐๐ บาท และจะผ่อนใช้ ๒๑ เดือน หมด ต่อมาจำเลยได้ชำระเงินไปแล้ว ๑๗ ครั้งเป็นเงิน ๙๐๐ บาท อีก ๓๐๐ บาท ไม่ยอมชำระ อ้างว่าได้ชำระครบ ๑๒๐๐ บาทแล้ว รวมทั้งเงินได้ชำระครบ ๑๒๐๐ บาทแล้ว รวมทั้งเงินมัดจำ ๓๐๐ บาทนั้นด้วย แต่ฝ่ายโจทก์อ้างว่าตกลงซื้อขายกันราคา ๑๕๐๐ บาทวางมัดจำไว้ ๓๐๐ บาทอีก ๑๒๐๐ บาททำเป็นสัญญาเช่าซื้อขายกันราคา ตามสัญญาเช่าซื้อมิได้รวมถึงมัดจำด้วย
ศาลชั้นต้นเห็นว่าในกรณีเช่นนี้คู่ความมีสิทธิจะสืบพะยานเป็นการตีความหมายใน สัญญานั้นได้และเมื่อได้สืบพะยานโจทก์ จำเลยแล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าสัญญาเช่าซื้อรายพิพากษาเป็นสัญญา ซึ่งโจทก์จำเลยรับรองกันทั้ง ๒ ฝ่ายว่าได้ทำขึ้นจริงและถ้อยคำในสัญญาก็ชัดแจ้งว่าราคารถรายพิพาทเป็นเพียง ๑๒๐๐ บาทเท่านั้น เพราะฉะนั้นในการที่โจทก์สืบไม่ได้ เมื่อฟังตามสัญญาดังกล่าวแล้วจำเลยชำระเงินค่ารถแก้โจทก์ไป ๙๐๐ บาท คงเหลืออีก ๓๐๐ บาท เป็นเงินมัดจำซึ่งตามประมวลแพ่ง ฯ มาตรา ๓๗๘ จำเลยมีสิทธิเลือกเอาเงินมัดจำ ๓๐๐ บาทนั้นเป็นการชำระหนี้การเช่าซื้อรถยนตร์รายพิพาทนี้ได้ เมื่อเป็นดังนี้ต้องถือว่าจำเลยได้ชำระราคารถยนตร์รายพิพาทนี้หมอสิ้นแล้ว จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้องโจทก์

Share