แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยกับผู้ตายเดินมาด้วยกัน พอมาระหว่างทางเวลากลางคืน ผู้ตายเอาไม้ตะพดตีจำเลยก่อน แล้วยังตีจำเลยอีก 2-3 ที จำเลยจึงเอามีปลายแหลมแทงชุ่ยไป 2-3 ทีบ้างถูกผู้ตายดังนี้ ถือว่าเป็นการต่อต้านในเวลาฉุกละหุกฉุกเฉิน เป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ ควรได้รับยกเว้นโทษ ตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 50
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙
จำเลยต่อสู้ว่า กระทำโดยป้องกันตัว
คดีได้ความว่า จำเลยนายเปี่ยม นายโหมด นายแก้ว นายขวัญ ต่างกลับจากกิจธุระเดินทางร่วมกันมาระหว่างทางนายเปี่ยมเอาไม้ตะพดตีจำเลยถูกต้นคอ ๑ ที่ จำเลยเซไป แล้วจำเลยถามนายเปี่ยมว่า ตีทำไม่และจำเลยชักมีดอกมา นายแก้วจับมือจำเลย นายเปี่ยมตีซ้ำ จำเลยหลบและสบัดหลุดจากมือนายแก้ว นายเปี่ยมเข้าตีจำเลยอีก จำเลยจึงเอามีดแทงชุ่ยไป นายเปี่ยมตีจำเลยอีก ๒-๓ ที จำเลยก็แทงชุ่ยไปอีก ๒-๓ ที่ แล้วจำเลยวิ่งหนี้ นายเปี่ยม ทรุดนั่งลงขาดใจตาย
ศาลชั้นต้นเห็นว่า นายเปี่ยมใช้ตะพดตึจำเลย จำเลยใช้มีด เป็นการป้องกันตัวสมควรแก่เหตุ พิพากษาลงดทษจำเลยตามมาตรา ๒๔๙,๕๓ จำคุก ๕ ปี
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำของจำเลยหาเกินสมควรแก่เหตุ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงต่อต้านการระดมตีด้วยไม้ตะพดไปในเวลาฉุกละหุกฉุกเฉินเช่นนั้นเป็ฯการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ ตามมาตรา ๕๐
พิพากษายืน