คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 292-293/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ภายหลังวันใช้ประมวลแพ่งเจ้าหนี้มีสิทธิได้รับดอกเบี้ยเรื่อยไปจนกว่าลูกหนี้ชำระเงินเสร็จ หาใช่มีสิทธิได้รับดอกเบี้ยเพียงจำนวนเงินหรือกำหนดเวลาเท่านั้นเท่านี้ไม่
วิธีพิจารณาแพ่ง จำเลยฎีกามาฝ่ายเดียวโจทก์มิได้ฎีกานั้นแม้ศาลฎีกาเห็นว่าตามกฎหมายโจทก์มีสิทธิได้ดอกเบี้ยมากกว่าที่ศาลล่างกำหนดมา ศาลฎีกาก็เห็นว่าไม่ควรแก้อ้างฎีกาที่ 287-288/2475

ย่อยาว

คดีนี้ศาลเดิมฟังว่าจำเลยกู้เงินสามีโจทก์ไป ๕ ครั้งรวมเป็นเงิน ๒๑๑๐๐ บาท ดอกเบี้ยค้าง ๘๙๙๕ บาทจึงพิพากษาให้จำเลยใช้ต้นเงินแลดอกเบี้ยดังกล่าวแล้วกับดอกเบี้ยอีกชั่งละ ๑ บาทต่อเดือนจนกว่าจะใช้เงินเสร็จ แต่เมื่อรวมดอกเบี้ยแล้วไม่ให้เกินต้น ให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ศาลฎีกาคงพิพากษายืน แต่กล่าวว่าข้อที่บังคับต่อไปว่าเมื่อรวมดอกเบี้ยเข้าแล้ว ไม่ให้เกินต้นเงินนั้นไม่ถูก เพราะหนี้ ๕ รายนี้ทำกันภายหลังวันใช้ประมวลแพ่ง ฯ ตามประมวลแพ่ง ฯ ไม่มีบัญญัติว่าเจ้าหนี้จะฟ้องเรียกดอกเบี้ยได้เพียงเท่าต้นเงินกู้ดังที่บังคับไว้ในเรื่องกู้หนี้แลขายตัว ปีมะโรง จ.ศ.๑๒๓๐ ตาม ม.๑๖๖ มีใจความเพียงว่าการเรียกเอาดอกเบี้ยค้างส่ง ให้มีกำหนดอายุความ ๕ ปี แต่หามีบทบัญญัตว่าพ้นวันยื่นฟ้องแล้วเจ้าหนี้จะมีสิทธิได้รับดอกเบี้ยเพียงจำนวนเงินหรือกำหนดเวลาเท่านั้นเท่านี้ไม่ เมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิได้รับดอกเบี้ยเรื่อยไปจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ แต่ความข้อนี้โจทก์มิได้ฎีกาคัดค้าน ศาลฎีกาจึงเห็นว่าไม่ควรแก้ คงพิพากษายืน

Share