แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทั้งสองฝ่ายวิวาทต่อสู้กับพวกของจำเลยฝ่ายหนึ่งใช้ปืนยิงอีกฝ่ายหนึ่ง ขณะหนี้เองจำเลยอีกฝ่ายหนึ่งอ้างว่าได้ผละหนีออกมาจาการต่อสู้แล้ว เมื่อความปรากฏว่าการวิวาทได้ชุลมุนติดพันกันอยู่ตลอดมาชั่วเวลาเล็กน้อยจึงไม่อาจแยกว่าจำเลยนั้นได้ผละหนีจากการต่อสู้ขณะมีการยิงกันขึ้นแล้ว ดังนี้จำเลยอีกฝ่ายหนึ่งที่อ้างว่าผละหนี้ออกมาแล้วนั้นย่อมมีความผิดตาม ม.253 ด้วย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่านายเพ็ชรจำเลยอีกฝ่ายหนึ่งกับนายทองจำเลย นายมี นายวิเชียรอีกฝ่ายหนึ่งได้บังอาจวิวาทต่อสู้ กันนายวิเชียรใช้ปืนยิงนายเพ็ชรจำเลย แต่ปืนไม่ลั่น นายมีใช้ปืนยิงนายเพ็ชรแต่กระสุนไปถูกนายเล็กตาย ทั้งนี้นายวิเชียร นายมี เจตนาจะฆ่าให้ตาย ขอให้ลงโทษตาม ม.๒๔๙,๒๕๓,๒๕๔ และ ม.๒๔๙ ประกอบด้วย ม.๖๐
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่านายเพ็ชรฝ่ายหนึ่ง นายทอง นายมี นายวิเชียร ฝ่ายหนึ่งได้วิวาททำหร้ายกันแต่ทางพิจารณาไม่ได้หมายความว่านายทองจำเลยได้สมคบกับนายมีนายวิเชียรใช้ปืนยิงนายเพ็ชรหรือนายเล็กจึงพิพากษาว่านายเพ็ชรจำเลยมีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๒๕๓ นายทองจำเลยมีความผิดตาม ม.๒๕๓ และ ๒๕๔ ให้จำคุกคนละ ๑ ปี ลดโทษนายเพ็ชรตาม ม.๕๙ ให้ ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๘ เดือน ของกลางริบ
โจทก์อุทธรณ์ว่านายทองจำเลยได้สมคบกับนายมี นายวิเชียรกระทำผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่านายได้ใช้ปืนยิงไปทางนายเพ็ชรจำเลย แต่กระสุนปืนไปถูกนายเล็กซึ่งเป็นคนภายนอกไม่เกี่ยวกับการวิวาท ขระนั้นนายเพ็ชรจำเลยผละหนี้ออกไปจากการต่อสู้แล้ว กรณีจึงไม่เป็นผิดตาม ม.๒๕๓ อันเป็นลักษณะคดี ศาลอุทธรณ์มีอำนาจยกขึ้นพิจารณาเป็นประโยชน์แก่นายเพ็ชรจำเลยด้วย จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่านายทองจำเลยมีความผิดตาม ม.๒๕๔ เพียงบทเดียว แต่กำหนดโทษให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องสำหรับนายเพ็ชรจำเลย
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.๒๕๓ ด้วย หรืออย่างน้อยนายเพ็ชรจำเลยก็ควรถูกลงโทษฐานทำร้ายร่างกาย
ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงฟังได้สนิทว่าได้มีการวิวาทต่อสู้กันระหว่างคนตั้งแต่สามคน คือนายเพ็ชรจำเลยฝ่ายหนึ่ง นายทองจำเลย นายมี นายวิเชียรอีกฝ่ายหนึ่ง กำลังที่จำเลยทั้งสองต่อสู้ติดพันกันอยู่ นายวิเชียรก็ใช้ปืนยิง พอนายเพ็ชรจำเลยเห็นเข้าคิดหนี้ เห็นว่าการวิวาทได้ชุลมุนติดพันกันอยู่ตลอดมาชั่วเวลาเล็กน้อยจึงไม่อาจแยกว่านายเพ็ชรจำเลยได้ผละหนีจากการต่อสู้แล้วดังศาลอุทธรณ์วินิจฉัย ความผิดของจำเลยทั้งสองไม่พ้น ก.ม.อาญา ม.๒๕๓
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้บังคับคดีลงโทษจำเลยทั้งสองตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นทุกประการ.