คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8151/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยถอนคำคัดค้าน ที่ได้คัดค้านการนำชี้แนวเขตที่ดินของโจทก์ อันเป็นคดีที่มี คำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ แต่เมื่อจำเลยให้การโต้แย้งกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทว่า โจทก์ได้นำชี้แนวเขตที่ดินรุกล้ำเข้ามาในที่ดินของจำเลย จึงเห็นได้ว่าทั้งคำฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยเป็นเรื่องที่โจทก์จำเลยมีจุดประสงค์โต้เถียงแย่งความเป็นเจ้าของในที่ดินพิพาทซึ่งเป็นประเด็นหลัก คำฟ้องของโจทก์ ที่ขอให้จำเลยถอนคำคัดค้านการนำชี้แนวเขตที่ดินของโจทก์ เป็นผลอันสืบเนื่องมาจากว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์หรือไม่ คำฟ้องโจทก์จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ คือ ตามราคาที่ดินพิพาทตาม ป.วิ.พ. มาตรา 150 วรรคแรก ซึ่งเป็นคดีมีทุนทรัพย์ เมื่อราคาที่ดินพิพาทซึ่งเป็นทุนทรัพย์ของคดีไม่เกินสามแสนบาท คดีจึงอยู่ในอำนาจของศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษา ที่ศาลแขวงอ้างว่าคดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความนั้น จึงไม่ชอบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยถอนคำคัดค้านฉบับลงวันที่ 22 เมษายน 2545 หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอา คำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณาศาลจังหวัดสมุทรปราการเห็นว่า จำเลยให้การต่อสู้ข้อพิพาทเกี่ยวด้วยกรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นคดีมีทุนทรัพย์ จึงให้คู่ความตีราคาที่ดินพิพาทซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 34 ตารางวา ปรากฏว่าราคาที่ดินที่พิพาท 102,000 บาท ศาลจังหวัดสมุทรปราการเห็นว่า คดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแขวงสมุทรปราการซึ่งเป็นศาลชั้นต้น ในคดีนี้ จึงมีคำสั่งให้โอนคดีไปยังศาลชั้นต้นตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 16 วรรคท้าย
ศาลชั้นต้นซึ่งรับโอนคดีมาเห็นว่า คดีนี้เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ไม่อยู่ในอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะพิจารณาพิพากษา จึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ค่าขึ้นศาลให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตาม ป.วิ.พ. มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า คดีเรื่องนี้อยู่ในอำนาจ ศาลชั้นต้นที่จะพิจารณาพิพากษาหรือไม่ เห็นว่า แม้โจทก์จะฟ้องขอให้จำเลยถอนคำคัดค้านการนำชี้แนวเขตที่ดิน ของโจทก์ อันเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ แต่เมื่อจำเลยให้การต่อสู้ว่าเป็น เจ้าของที่ดินพิพาทที่โจทก์กล่าวอ้างว่าเป็นของโจทก์ จึงเห็นได้ว่าทั้งตามคำฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยเป็นเรื่องที่โจทก์จำเลยมีจุดประสงค์โต้เถียงแย่งความเป็นเจ้าของในที่ดินพิพาทซึ่งเป็นประเด็นหลัก ดังนั้น ตามคำฟ้องของโจทก์ที่ขอให้จำเลยถอนคำคัดค้านการนำชี้แนวเขตที่ดินของโจทก์นั้น จึงเป็นผลอันสืบเนื่องมาจากว่าที่ดินที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือไม่ คำฟ้องโจทก์จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้คือ ตามราคาที่ดินที่พิพาทตาม ป.วิ.พ. มาตรา 150 วรรคแรก นั้นเอง คดีเรื่องนี้จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ เมื่อที่ดินที่พิพาทราคา 102,000 บาท และตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เช่นนี้ ย่อมเป็นคดีที่อยู่ในเขตอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะพิจารณาพิพากษา ที่ศาลชั้นต้นอ้างว่าคดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจศาลชั้นต้นที่จะพิจารณาพิพากษาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีต่อไป ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ.

Share