คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลได้พิพากษาตามยอมและมีคำสั่งท้ายคำพิพากษานั้นว่าบังคับตามยอมและต่อมาออกหมายบังคับคดีต่อจำเลยอีก ดังนี้แสดงว่า มีคำบังคับแล้ว
เมื่อจำเลยทำยอมรื้อสิ่งปลูกสร้างออกจากที่เช่า และศาลพิพากษาตามยอม ดังนี้เป็นคำพิพากษาที่เด็ดขาดถึงที่สุดแล้ว จะอ้าง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่ามาเปลี่ยนแปลงผลแห่งคำพิพากษาเป็นอย่างอื่นไม่ได้

ย่อยาว

ความว่า จำเลยทำสัญญายอมความมีความว่า จำเลยยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ศาลได้พิพากษาตามยอมและออกหมายบังคับคดีแล้ว จำเลยไม่รื้อ ศาลชั้นต้นจึงสั่งให้จำเลยรื้อถอนให้เสร็จภายใน 10 วัน

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลได้พิพากษาตามยอมและมีคำสั่งท้ายคำพิพากษาว่า บังคับตามยอม และต่อมาออกหมายบังคับคดีต่อจำเลยอีก ดังนี้แสดงว่า มีคำบังคับแล้ว ส่วนที่จำเลยอ้างว่าได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันนั้น เมื่อจำเลยทำยอมรื้อสิ่งปลูกสร้างออกจากที่เช่าและศาลพิพากษาตามยอม เป็นคำพิพากษาเด็ดขาดถึงที่สุดแล้ว จะอ้างพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่ามาเปลี่ยนแปลงผลคำพิพากษาให้เป็นอย่างอื่นไม่ได้

พิพากษายืน

Share