แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
+ไห้เขาเอาเงินของเขาชำระหนี้แทนตนนั้น ไม่เข้าลักสนะกู้ยืน แต่เปนเรื่องตัวการตัวแทน ผู้ออกเงินไช้หนี้ไป มาฟ้องเรียกได้ โดยไม่ต้องมีหลักถานเปนหนังสือ.
ย่อยาว
ฟ้องโจทกล่าวว่า เดิมจำเลยเปนความกับนางคงแล้วจะเลิกความ ไนการเลิกความนี้จำเลยจะต้องไช้หนี้แทนนางคงไห้แก่โจท หนี้ที่นางคงค้างโจทนั้นรวม ๔๕๐ บาท ไนการที่จำเลย กับนางคงเลิกความกันนั้น จำเลยต้องรับไช้หนี้แทนนางคงตลอดทั้งค่าทำเนียมและค่าทนายด้วย ค่าทำเนียมนี้จำเลยไห้โจทจ่ายแทนจำเลยไห้นางคงไปก่อนโจทจึงฟ้องเรียกเงินค่าทำเนียมค่าทนายที่โจทจ่ายแทนจำเลยไป.
จำเลยไห้การปติเสธ
สาลชั้นต้นสืบพยานปากเดียวแล้วสั่งงดวินิฉัยว่ากรนีเปนการกู้ยืมเมื่อไม่มีหลักถานเปนหนังสือก็ฟ้องบังคับคดีไม่ได้ จึงพิพากสายกฟ้อง
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์เห็นว่า กรนีไม่ไช่เปนเรื่องกู้ยืม จึงไห้ยกคำพิพากสาสาลชั้นต้นไห้สาลชั้นต้นพิจารนาไหม่ แต่มีความเห็นแย้งว่าควนยืน.
จำเลยดำกา สาลดีกาเห็นว่า ตามคำบันยายฟ้องของโจทมิไช่เปนการกู้ยืมเงินตาม ป.พ.พ. มาตรา ๖๕๓ ซึ่งต้องมีหลักถานเปนหนังสือ แต่เปนการจัดการตามสั่งต้องด้วยกดหมายลักสนะตัวการตัวแทน ซึ่งหาต้องมีหลักถานเปนหนังสือไม่ จึงพิพากสายืนตามสาลอุธรน์