แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่นาย ซ. ได้ออกเงินและสิ่งของให้นาง ก. ทำการประมง เมื่อได้ปลามาส่งให้แก่นาย ซ.แล้ว นายซ. ก็รับขนส่งไปให้นางบุญแถมขาย นางบุญแถมจะหักเงินค่าขายปลาของนางบุญแถมไว้ 5 เปอร์เซ็นต์และอีก 5 เปอร์เซ็นต์เป็นค่าบำเหน็จของนาย ซ. เพราะนาย ซ.ออกทุนให้นาง ก. แล้วส่งบิลและเงินค่าขายปลาให้นาย ซ. นาย ซ.ลงบัญชีไว้แล้วมอบบิลให้นาง ก. ไปลงบัญชีของตนเพื่อจะได้ตรวจสอบคิดหักบัญชีกัน ทำให้รู้ได้ว่าฝ่ายใดยังเป็นเจ้าหนี้ลูกหนี้กันจำนวนเงินเท่าใด โดยมีสมุดบัญชีเบิกเงินรายวัน สมุดบัญชีน้ำมัน(ที่ใช้ในการเดินเรือ) สมุดบัญชีขายปลา เป็นพยานหลักฐาน เช่นนี้ นิติสัมพันธ์ระหว่างนาง ก. กับนาย ซ. เข้าลักษณะบัญชีเดินสะพัดตามมาตรา 856 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยรับจ้างขนส่งปลาและกุ้งของโจทก์นำไปขายนางบุญแถม โดยโจทก์มอบให้จำเลยรับเงินค่าขายปลาและกุ้งจากนางบุญแถมแล้วนำมาให้โจทก์ จำเลยไม่ชำระเงินที่ได้รับมาให้โจทก์ทั้งหมด จำเลยผ่อนชำระและได้ออกบิล(ตั๋ว) สำหรับเงินส่วนที่เหลือและหักค่าจ้างส่วนของจำเลยไว้แล้วให้โจทก์ยึดไว้เพื่อไปขึ้นเงินกับจำเลย รวมเงินตามบิล ๑๑๖,๓๔๓.๒๕ บาท โจทก์ทวงถามจำเลยปฏิเสธ ขอศาลพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยเป็นหนี้โจทก์ตามฟ้อง บัญชีเงินท้ายฟ้องไม่ถูกต้อง โจทก์ติดต่อกับจำเลยในฐานะบุตรนายเพี้ยนนางสน จำเลยได้ให้โจทก์เบิกเงินและซื้อเชื่อสิ่งของ โดยมีบัญชีรับจ่ายควบคุมกันอยู่ เมื่อนางบุญแถมออกตั๋วหรือบิลให้จำเลย จำเลยได้รับเงินมาตามบิลก็สลักหลังบิลหักค่าน้ำแข็ง ค่าบรรทุก เหลือเท่าใดเป็นรายได้ของนายเพี้ยนนางสน แล้วกรอกจำนวนสุทธิลงในบัญชีคู่ฉบับ แล้วมอบให้นายเพี้ยนนางสนหรือโจทก์เพื่อเอามาคิดหักกลบลบหนี้กันในภายหลัง เมื่อนำบัญชีมาหักกลบลบกันก็ไม่ต้องนำตั๋วมาคืน เพราะตกลงว่าไม่ใช้แล้ว เมื่อหักกลบลบกันแล้วนายเพี้ยนนางสนโดยโจทก์เป็นตัวแทนยังเป็นหนี้ค้างชำระจำเลยอยู่ ๒๙,๙๘๖ บาท ขอศาลพิพากษายกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาจะได้พิเคราะห์ข้อที่นางโอกิมฎีกาว่า นิติสัมพันธ์ระหว่างนางโอกิมกับนายโอซังไม่เข้าลักษณะบัญชีเดินสะพัด แต่เป็นลักษณะการกู้ยืม เมื่อไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของฝ่ายที่ต้องรับผิดแล้ว ก็ฟ้องขอให้บังคับไม่ได้
ข้อเท็จจริงเชื่อได้ว่านายโอซังได้ออกเงินและสิ่งของให้แก่ลูกค้าที่ส่งปลาทำการประมงหลายราย เมื่อได้ปลามาส่งให้แก่นายโอซังและปลา นั้นขายได้แล้ว นายโอซังก็จะได้รับเงินจากการขายปลา ๕ เปอร์เซ็นต์เป็นค่าบำเหน็จ ซึ่งรายนางโอกิมก็ตกอยู่ในประเภทนี้ เพราะน้ำมันที่ใช้ในการเดินเรือยนต์เลิศทวีชัยก็เติมที่ปั๊มของนายโอซังตกเดือนละ ๒,๐๐๐ บาท การเปลี่ยนเครื่องยนต์ของเรือลำนี้นายโอซังก็เป็นฝ่ายออกทดรองเงินชำระให้ การซ่อมเรือซื้อเครื่องอะไหล่ก็อาศัยเงินจากนายโอซัง ซึ่งนายโอซังมีสมุดบัญชีเบิกเงินรายวัน สมุดบัญชีน้ำมัน สมุดบัญชีขายปลาเป็นพยานหลักฐาน เมื่อนายโอซังได้รับบิลและเงินค่าขายปลาจากนางบุญแถมแล้ว นายโอซังจะลงบัญชีของเขาไว้ แล้วมอบบิลให้ลูกค้าไปลงบัญชีของฝ่ายลูกค้าเพื่อจะได้มาตรวจสอบคิดหักบัญชีกัน ทำให้รู้ได้ว่าฝ่ายใดยังเป็นเจ้าหนี้ลูกหนี้กันจำนวนเงินเท่าใด นิติสัมพันธ์ระหว่างนางโอกิมกับนายโอซัง เข้าลักษณะบัญชีเดินสะพัดตามมาตรา ๘๕๖ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หาใช่ลักษณะหนี้เงินยืมดังที่นางโอกิมฎีกาขึ้นมาไม่ จึงไม่จำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของฝ่ายที่ต้องรับผิด และมีอายุความ ๑๐ ปี ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน.