คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 808/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทำสัญญาเช่าบ้านกับบิดาเจ้าของบ้าน เมื่อผู้เช่าประพฤติผิดสัญญาเช่า บิดาเจ้าของบ้านซึ่งเป็นผู้ให้เช่าย่อมีอำนาจฟ้องผู้เช่าได้ เพราะเป็นคู่สัญญากับผู้เช่าได้รับประโยชน์ในสัญญาแล้ว
ในกรณีที่ผู้เช่าไม่สงวนสถานที่เช่าเสมอกับวิญญูชนจะถึงสงวนทรัพย์สินของตนเอง แม้ผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาจะต้องบอกกล่าวก่อนตาม ป.ม. แพ่งมาตรา 554 แต่ถ้าการเช่นนั้นได้สิ้นสุดลงแล้วเพราะหมดอายุสัญญาเช่าผู้ให้เช่าก็มีสิทธิฟ้องผู้เช่าในเหตุนี้ได้ โดยมิต้องบอกกล่าวก่อน เพราะ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ มาตรา 16(4) มิได้มีบทบัญญัติให้ต้องบอกกล่าวไม่
อยู่ในบ้านเช่า 5 ครัวต่างทำครัวของตนเองทั้งชั้นบนและชั้นล่างและที่ระเบียง บ้านมีลักษณะเก่าหน้าต่างชำรุด เป็นพฤติการณ์ที่ขับไล่ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ มาตรา 16(4)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยกับบริวารออกจากบ้านเช่าของโจทก์ โดยอ้างว่าจำเลยให้เช่าช่วง ขาดส่งค่าเช่ากว่า ๒ เดือน ไม่รักษาสถานที่ให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยและใช้สถานที่ผิดสภาพ
จำเลยปฏิเสธและต่อสู้ว่า บ้านเป็นของบุตรโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ทางพิจารณาได้ความว่า โจทก์ซื้อบ้านหลังนี้ในนามของเด็กชายพุกเชียงบุตรโจทก์ ต่อมาจำเลยทำสัญญากับโจทก์เพื่ออยู่อาศัยมีกำหนด ๖ เดือน พอครบกำหนด ๖ เดือนตามสัญญา โจทก์ก็มีหนังสือบอกเลิกการเช่าและได้ความว่าจำเลยอยู่ในสถานที่เช่าหลายครัว ต่างทำครัวของตนทั้งชั้นบนชั้นล่างตั้ง ๘ ครัว ทำครัวที่ระเบียงก็มี บ้านมีลักษณะเก่าหน้าต่างชำรุด
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นวา ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้วโจทก์เป็นคู่สัญญากับจำเลย ๆ ได้รับประโยชน์ในสัญญาแล้วโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ ในข้อที่จำเลยไม่สงวนสถานที่เช่าเสมอกับวิญญูชนจะพึงสงวนทรัพย์สินของตนเองแม้ตาม ป.ม.แพ่ง มาตรา ๕๕๔ โจทก์จะต้องบอกกล่าวก่อนก็ดี แต่การเช่ารายนี้ได้สิ้นสุดแล้ว เพราะหมดอายุสัญญาเช่า จำเลยจะอยู่ต่อไปได้ก็โดยอาศัย พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ คุ้มครอง แต่ความใน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ มาตรา ๑๖(๔) หาได้มีบทบัญญัติให้โจทก์ต้องบอกกล่าวไม่ โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยโดยมิต้องบอกกล่าว พิพากษากลับให้บังคับคดีดังศาลชั้นต้น

Share