แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้พนักงานสอบสวนจะได้แจ้งข้อหาแก่จำเลยว่ากระทำอนาจารผู้เสียหายต่อหน้าธารกำนัล อันไม่ใช่คดีความผิดต่อส่วนตัวหรือความผิดอันยอมความได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนโดยไม่ต้องมีการร้องทุกข์ตามระเบียบก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหากระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายโดยไม่มีกรณีเกิดต่อหน้าธารกำนัลซึ่งเป็นความผิดอันย่อมความได้นั้น โจทก์ได้บรรยายฟ้องว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ภายในอายุความแล้ว ทั้งโจทก์ได้นำสืบว่า ผู้เสียหายได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่จำเลยว่า จำเลยกระทำอนาจารผู้เสียหาย จึงฟังได้ว่า ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว พนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนและพนักงานอัยการโจทก์มีอำนาจฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา ๒๗๘ คดีนี้ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ภายในอายุความแล้ว
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา ๒๗๘ จำคุก ๓ ปี คำรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตาม ป.อ. มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๒ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๑ อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า คดีนี้เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ไว้ตามระเบียบ การสอบสวนคดีนี้จึงไม่ชอบ และโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้น ได้ความจากคำเบิกความของผู้เสียหาย และร้อยตำรวจเอกสุบรรณ บุญหลักคำ พนักงานสอบสวนว่า ผู้เสียหายได้แจ้งความให้ดำเนินคดีกับจำเลย โดยแจ้งต่อร้อยตำรวจเอกสุบรรณว่า จำเลยได้กระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายและปรากฏตามบันทึกคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยเอกสารหมาย จ.๓ กับบันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุคดีอาญา เอกสารหมาย จ.๕ ว่า ร้อยตำรวจเอกสุบรรณแจ้งข้อหาแก่จำเลยว่ากระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายต่อหน้าธารกำนัล ซึ่งไม่ใช่คดีความผิดต่อส่วนตัวหรือความผิดอันยอมความได้ ร้อยตำรวจเอกสุบรรณจึงมีอำนาจสอบสวนคดีโดยไม่ต้องมีการร้องทุกข์ตามระเบียบ ส่วนคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหากระทำอนาจารแก่ผู้เสียหาย โดยไม่มีกรณีเกิดต่อหน้าธารกำนัล ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้นั้น โจทก์ได้บรรยายฟ้องว่า ” คดีนี้ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ภายในอายุความแล้ว” ทั้งโจทก์ได้นำสืบว่าผู้เสียหายได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับจำเลย ว่าจำเลยได้กระทำอนาจารผู้เสียหาย จึงฟังได้ว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว พนักงานสอบสวนก็มีอำนาจสอบสวนและพนักงานอัยการโจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง
พิพากษายืน.