คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 804/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อโจทก์ถูกจำเลยฟ้องเรียกเงินกู้ โจทก์ต่อสู้ว่าได้จ่ายเงินแทนจำเลยไปและจำเลยยอมหักกลบลบหนี้ให้ แต่ศาลไม่ยอมให้โจทก์นำสืบแล้วพิพากษาให้โจทก์ใช้เงิน โจทก์จึงมาฟ้องเรียกเงินที่อ้างว่าจ่ายแทนจำเลยไปดังนี้ ถือว่าเป็นการฟ้องซ้ำ เพราะเป็นเรื่องอยู่ในประเด็นแห่งคดีแล้ว.

ย่อยาว

ข้อเท็จจริงได้ความว่า เดิมจำเลยในคดีนี้ฟ้องโจทก์ให้ชำระเงินกู้ที่โจทก์กู้จำเลยไป ๒๐๐ บาท โจทก์ให้การว่าได้ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยให้แก่จำเลยแล้ว จำเลยไม่หักลบลบหนี้ให้ แต่ศาลชั้นต้นตัดสินให้โจทก์แพ้ โจทก์ไม่อุทธรณ์ฎีกาต่อไป กลับมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ เรียกเงินที่โจทก์ชำระแก่จำเลยไปคืนฐานลาภมิควรได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินโจทก์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า เงินรายที่โจทก์ฟ้องนี้ โจทก์ได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ว่า ได้จ่ายเงินรายนี้เป็นการชำระหนี้เงินกู้ที่โจทก์ถูกฟ้องในคดีก่อนนั้นแล้ว แต่ศาลแขวงพระนครเหนือสั่งตัดไม่สืบพะยานโจทก์ โดยวินิจฉัยว่า การชำระหนี้เมื่อไม่มีใบรับเป็นหนังสือ จะนำสืบการใช้เงินไม่ได้ดังนี้ จะเห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในประเด็นแห่งคดีก่อนนั้นแล้วจะรื้อฟื้นมาฟ้องร้องกันอีกไม่ได้ จึงพิพากษายืน.

Share