คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในชั้นบังคับคดี บุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีที่อ้างว่าจำเลยไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินซึ่งศาลสั่งบังคับคดีไปตามคำพิพากษา ชอบที่จะยื่นคำร้องขอต่อศาลได้ตามนัยแห่งบทบัญญัติ มาตรา 7(2),288, และ 296ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งศาลจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ร้องจะต้องไปฟ้องเป็นคดีเรื่องใหม่
การร้องคัดค้านว่าศาลสั่งบังคับคดีเอาทรัพย์สินของตนซึ่งเป็นคนภายนอกนั้น ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลตามคำร้องขอ
ศาลมีอำนาจสั่งคืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ฎีกาได้

ย่อยาว

ความว่า จำเลยยอมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินส่วนของจำเลยในโฉนดที่ 5348 (เดิมโฉนดที่ 4958) ตำบลเชือกหนัง จังหวัดธนบุรี ให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่โจทก์ ศาลได้พิพากษาตามยอมและบังคับคดี ศาลชั้นต้นได้มีหนังสือถึงหอทะเบียนให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินส่วนของจำเลยในโฉนดที่ 5348 เป็นเนื้อที่ 18 ไร่ 1 งาน 19 ตารางวาครึ่งหรือครึ่งหนึ่งของที่ให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่โจทก์ ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า จำเลยยอมขายที่ดินโฉนดที่ 5348 ไม่ใช่โฉนดที่ 4958 โจทก์ไม่มีสิทธิขอให้ลงชื่อในโฉนดที่ 4958 ซึ่งเป็นของผู้ร้อง ที่ดินโฉนดที่ 4958 จำเลยมีกรรมสิทธิ์ร่วมเพียง 3 ไร่ จึงขอให้ศาลคืนโฉนดที่ 4958 ให้แก่ผู้ร้อง และสั่งงดลงชื่อโจทก์ในโฉนดหรือให้จดในทะเบียนว่าโจทก์มีกรรมสิทธิ์รวมกับผู้ร้องเพียง 3 ไร่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องไปดำเนินคดีให้ถูกต้องตามกฎหมายศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่า เมื่อผู้ร้องอ้างว่า จำเลยไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังที่ศาลสั่งบังคับคดีไปตามคำพิพากษาผู้ร้องชอบที่จะไปยื่นคำร้องขอต่อศาลได้ตามมาตรา 7(2), 288, 296 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งศาลจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ไม่จำเป็นที่ผู้ร้องจะต้องไปฟ้องเป็นคดีเรื่องใหม่พิพากษายกคำสั่งและคำพิพากษาศาลล่าง เมื่อผู้ร้องได้เสียค่าธรรมเนียมศาลตามคำร้องขอในเรื่องนี้แล้ว ให้ศาลล่างดำเนินการพิจารณาต่อไป ตามกระบวนความ

Share