คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องของโจทก์ที่กล่าวความลอย ๆ ว่าลักทรัพย์ไปหลายอย่าง ไม่ได้ระบุว่าทรัพย์อะไร เอาไปขายให้ใคร อะไรบ้าง ที่ไหนเมื่อไรเช่นนี้ ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุมทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดีคำตราสินซึ่งโจทก์กล่าวในฟ้องว่าจะส่งศาลในวันพิจารณานั้น ไม่ใช่เป็นส่วน 1 ของฟ้อง เป็นเพียงพะยาน
ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมลงโทษจำเลยไม่ได้นั้นเป็นเหตุลักษณคดี ศาลยกขึ้นพิพากษาปล่อยจำเลยที่ไม่มีฎีกาขึ้นมาได้ด้วย

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องกล่าวความว่าจำเลยสมคบกันลักทรัพย์ ฮ.ไปหลายอย่างรวมราคา ๑๑ บาท ๔๑ สตางค์ ต่อมาได้คืนบางอย่างรวมราคา ๓ บาท ๗ สตางค์ ดังปรากฏตามคำตราสินซึ่งจะได้ส่งศาลในวันพิจารณาต่อมาจำเลยเอาทรัพย์ที่ลักไปขายแลฝากไว้แก่ ท. ส.และ จ. เจ้าพนักงานจับของกลางได้ ขอให้ลงโทษ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์กล่าวความลอย ๆ ว่าลักทรัพย์ไปหลายอย่างไม่ได้ระบุว่าทรัพย์อะไร เอาไปขายให้ใคร อะไรที่ไหนเมื่อไรและถึงแม้โจทก์จะส่งคำตราสินรายการทรัพย์แล้วก็จริงแต่ส่งเมื่อวันพิจารณาในฐานะเป็นพะยาน ไม่ใช่ในฐานะฟ้องและภายหลังจำเลยให้การแล้ว จำเลยย่อมไม่มีโอกาศเตรียมต่อสู้คดี ยิ่งกว่านั้นของกลางก็มิได้จับได้ที่จำเลยเอง และศาลล่างทั้ง ๒ ก็มิได้ลงโทษฐานลักทรัพย์ แต่ลงโทษฐานรับของโจร ฉะนั้นกรรมในตอนที่จำเลยนำทรัพย์สิ่งใดเท่าใดไปขายหรือฝากกับใคร ที่ไหน เมื่อไร จึงเป็นข้อสำคัญในคดี จึงเห็นว่าฟ้องของโจทก์ไม่มีฐานะเป็นฟ้องอันชอบด้วยวิธีพิจารณา เป็นเหตุให้จำเลยไม่สามารถต่อสู้คดีได้เต็มภูมิ พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ปล่อยจำเลยพ้นข้อหาไป ตลอดทั้งจำเลยที่มิได้ฎีกามาด้วยเพราะเป็นเหตุในลักษณคดี

Share