แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
การยึดทรัพย์สินของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 254 (1) ซึ่งเป็นวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา มิใช่เป็นส่วนหนึ่งของการบังคับคดีตามคำพิพากษา จึงไม่ต้องห้ามที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นจะยึดทรัพย์สินนั้นตาม ป.วิ.พ. มาตรา 290 ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นจึงต้องไปดำเนินการยึดทรัพย์ที่ถูกยึดไว้ชั่วคราวนั้นจะมายื่นคำร้องต่อศาลที่ออกหมายยึดทรัพย์นั้นชั่วคราวเพื่อขอเฉลี่ยทรัพย์ไม่ได้ คำสั่งของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางที่อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์ของจำเลยได้ก่อนศาลมีคำพิพากษาคดีนี้ จึงไม่ชอบด้วย พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศฯ มาตรา 26 ประกอบ ป.วิ.พ. มาตรา 290
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์ โจทก์ส่งสินค้าดังกล่าวจากประเทศอังกฤษให้แก่จำเลยในประเทศไทยครบถ้วน จำเลยผ่อนชำระค่าสินค้าให้แก่โจทก์เรื่อยมา ครั้งสุดท้ายค้างชำระอยู่ 54,908.64 ปอนด์สเตอร์ลิงและดอกเบี้ย 2,019.59 ปอนด์สเตอร์ลิง รวมเป็น 56,928.23 ปอนด์สเตอร์ลิง (1 ปอนด์สเตอร์ลิงเท่ากับ 66.96 บาท) คิดเป็นเงินไทยจำนวน 3,811,914.28 บาท แล้วจำเลยไม่ชำระอีก ขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้เงินดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณา โจทก์ยื่นคำร้องขอให้คุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาในกรณีฉุกเฉินโดยขอให้ยึดเครื่องจักรในโรงงานของจำเลยซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 82/116 ถนนพัฒนาการ 69 เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ไว้ชั่วคราว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254 (1) ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งอนุญาตตามคำร้อง
ต่อมาก่อนมีคำพิพากษา ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางในคดีแพ่งอื่นเป็นเงิน 38,745.57 ปอนด์สเตอร์ลิง พร้อมด้วยดอกเบี้ย ผู้ร้องไม่สามารถบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้เพราะทรัพย์สินทั้งหมดของจำเลยถูกโจทก์ยึดไว้ดังกล่าวแล้ว จำเลยไม่มีทรัพย์สินใดให้ผู้ร้องบังคับคดีตามคำพิพากษาได้อีก จึงขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยในทรัพย์ที่ถูกยึดไว้ชั่วคราวดังกล่าว
โจทก์ยื่นคำคัดค้าน ขอให้ยกคำร้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์ได้
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า “การยึดทรัพย์สินของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254 (1) ซึ่งเป็นวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา มิใช่เป็นส่วนหนึ่งของการบังคับคดีตามคำพิพากษา จึงไม่ต้องห้ามที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นจะยึดทรัพย์สินนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นจึงต้องไปดำเนินการยึดทรัพย์ที่ถูกยึดไว้ชั่วคราวนั้นจะมายื่นคำร้องต่อศาลที่ออกหมายยึดทรัพย์นั้นชั่วคราวเพื่อขอเฉลี่ยทรัพย์ไม่ได้ คำสั่งของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางที่อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์ของจำเลยได้ก่อนศาลมีคำพิพากษาคดีนี้ จึงไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ และวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น คดีไม่จำต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ในปัญหาอื่นต่อไป”
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้อง