คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีอาญาหาว่าปล้นทรัพย์ฆ่าคนตายนั้น เมื่อพยานบุคคลที่โจทก์นำสิบเบิกความแตกต่างขัดกับเหตุผลเชื่อฟังเป็นจริงไม่ได้คดีของโจทก์คงยังมีคำรับของจำลเยชั้นสอบสวนกับว่าจับของกลางบางอย่างได้จากบ้านเรือนของจำเลย แต่เพียงเท่านี้ยังไม่พอจะชี้ขาดลงโทษจำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกในคดีดำที่ ๑๔๒/๒๔๙๒ ได้สมคบกันปล้นทรัพย์นายเงิน นางเอียด นางห้อง นางสาวระมิด และจำเลยกับพวกช่วยกันจับนายเงินหักคอจนนายเงินถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษ
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีนี้กับคดีดำที่ ๑๔๒/๒๕๙๒ แล้วไม่เชื่อจำเลยในคดีดำที่ ๑๔๒/๒๔๙๒ เป็นคนร้ายจึงให้ยกฟ้อง แต่สำหรับจำเลยในคดีนี้เห็นว่าโจทก์มีพยานประกอบด้วยคำรับของจำเลยชั้นสอบสวนกับจับของกลางได้ที่จำเลยด้วย พอเชื่อได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายรายนี้จริง จึงพิพากษาลงโทษ
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า พยานโจทก์เชื่อฟังไม่ได้ตลอดถึงจำเลยในคดีนี้ด้วย คำรับชั้นสอบสวนจำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้รับ จำเลยถูกขู่เข็ญให้ลงชื่อในเอสารที่เขียนมาแล้วแล้วโดยไม่อ่านให้ฟัง ของกลางก็ว่าไม่ได้จับได้จากจำเลย คำรับชั้นสอบสวนไม่เป็นประโยชน์แต่คดีของโจทก์ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า พยานบุคลของโจทก์แตกต่างขับกับเหตุเชื่อฟังไม่ได้ คดีของโจทก์คงยังมีคำรับของนายคงจำเลย ชั้นสอบสวนกับว่าจับของกลางบางอย่างได้จากบ้านเรือนจำเลยแต่เพียงเท่านี้ ไม่พอจะชี้ขาดลงโทษจำเลยได้ พิพากษายืน

Share