คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่เซ็นชื่อบุคคลอื่นลงไปในหนังสือสำคัญนั้น แม้ชื่อนั้นจะปรากฏว่าไม่มีตัวจริงเมื่อจำเลยเจตนาแสดงให้เห็นว่ามีตัวจริง ก็เป็นผิดฐานปลอมหนังสือ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันกระทำผิด คือจำเลยที่ ๑ เซ็นชื่อนายไป นายสี นายยา นายพิม เพิ่มเติมลงในบัญชีแรงงานประจำวันและบัญชีจ่ายค่าจ้างรายวันคนงานบำรุงทางอันเป็นหนังสือสำคัญในราชการ เพื่อประสงค์จะให้คนอื่นปลอมตัวเข้ามารับสมอ้างรับเงินค่าจ้างฉ้อโกงค่าจ้างของกรมโยธาเทศบาลไปเป็นประโยชน์ของตน และจำเลยสมคบกันใช้อุบายเสี้ยมสอนให้จำเลยที่ ๓ กับคนอื่นอีก ๓ คนเป็นนายใบ นายสี นายยา และนายพิมแล้วจำเลยที่ ๒ พาผู้รับสมอ้างนี้ไปหาปลัดจังหวัดผู้รักษาการตำแหน่งโยธาเทศบาลผู้จ่ายเงินเพื่อขอรับค่าจ้าง ปลัดจังหวัดหลงเชื่อจึงให้จำเลยที่ ๑ รับเงินแทน แต่โดยทีไม่ต้องเซ็นชื่อต่อหน้าปลัดอำเภอจังหวัด จำเลยจึงให้ผู้รับสมอ้างนอกจากจำเลยที่ ๓ กลับเสีย แล้วสมคบกันเซ็นชื่อปลอมในบัญชีค่าจ้างรายวันว่า นายใบ นายสี นายยา และนายพิมเป็นผู้รับเงินไป ขอให้ลงโทษ จำเลยที่ ๑ รับว่าได้เป็นผู้เขียนชื่อนายใบ นายสี นายยา และนายพิมซึ่งไม่มีตัวมาทำงาน เพิ่มเติมลงในบัญชีแรงงานประจำวันและบัญชีจ่ายเงินค่าจ้างรายวันจริงตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยที่ ๑ ตามกฎหมายอาญามาตรา ๒๒๔ ลงโทษจำเลยที่ ๒ ตามมาตรา ๓๐๔ จำเลยที่ ๓ ให้ยกข้อหา
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นการปลอมหนังสือตามมาตรา ๒๒๒ ข้อ ๒ และ ๓ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
จำเลยที่ ๑ ฎีกาว่า โทษฐานปลอมหนังสือมีอัตราถึง ๑๐ ปี ศาลจะลงโทษจำเลยตามคำรับสารภาพของจำเลยโดยไม่สืบพยานหลักฐานก่อนไม่ได้ และการเขียนเติมชื่อกับเซ็นปลอมนามผู้ไม่มีตัวตนนั้นไม่เป็นปลอมหนังสือ ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้โจทก์มีพยานหลักฐานสืบประกอบคำรับของจำเลยฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดจริงแล้ว การที่จำเลยเซ็นชื่อบุคคลอื่นลงไปในหนังสือสำคัญ ก็เป็นปลอมหนังสือแล้ว เพราะจำเลยแสดงให้เห็นว่ามีตัวจริง และมีการเสียหายแล้ว จึงพิพากษายืน

Share