คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2472

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จะลงโทษฐานหมิ่นประมาทตาม ม.282 จะต้องได้ความว่าผู้กล่าวมีเจตนาใส่ความเขาให้เสียหายตอบคำถามของเจ้าพนักงานผู้ไต่ส่วน แลอธิบายข้อความให้ผู้ไต่สวนเข้าใจโดยไม่ตั้งใจใส่ความผู้อื่นยังไม่มีผิดฐานหมิ่นประมาท เทียบฎีกา 65/2466

ย่อยาว

จำเลยให้การต่อหน้าเจ้าพนักงานผู้ไต่สวน ๒ คนตอนหนึ่งว่า หลวงประจิตร์ ฯ พูดจาจะร่วมประเวณีกับจำเลย ๆ ไม่ยอม หลวงประจิตร์ ฯ จึงพูดว่าให้เอาอย่างแม่ถวิลเขาซิ จำเลยตอบว่าเอาอย่างไม่ได้ แลกล่าวต่อเจ้าพนักงานว่า “คำว่าแม่ถวิบนี้จำเลยเข้าใจว่าแม่ถวิลภรรยานายสมควร จำเลยรู้จักเคยได้ยินว่าเป็นชู้กับผู้มีชื่อ” ดังนี้ ปัญหามีว่าจำเลยจะมีผิดตามมาตรา ๒๘๒ หรือไม่ ฯ
ศาลเดิมตัดสินว่า จำเลยมีผิดตาม ม.๒๘๒ จำคุก ๑ เดือน ฯ
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยได้เบิกความเป็นพะยานต่อเจ้าพนักงานผู้ไต่สวนตามเนื้อเรื่องที่เป็นไป มิได้มีเจตนาติเตียนใส่ความโจทก์การที่จำเลยพูดว่าโจทก์มีชู้กับผู้มีชื่อ เป็นแต่คำอธิบายให้ผู้ไต่สวนเข้าใจความหมายของหลวงประจิตร์ ฯ ที่พูดให้จำเลยเอาอย่างแม่ถวิล แลศาลฎีกากล่าวต่อไปว่า การที่จะลงโทษจำเลยในทางอาญาจะต้องได้ความว่าจำเลยได้กระทำโดยเจตนาดังบัญญัติไว้ในมาตรา ๔๓ จึงให้ยกฟ้องโจทก์เสีย

Share