คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 791/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หนังสือสัญญากู้ที่จำเลยกู้เงินโจทก์มีข้อความว่า ไม่มีดอกเบี้ยโจทก์มีสิทธินำสืบพยานบุคคลได้ว่าไม่มีดอกเบี้ยที่คิดเป็นเงินแต่จำเลยยอมให้โจทก์ทำนาต่างดอกเบี้ยเพราะเป็นการสืบอธิบายความหมายของสัญญากู้ หาใช่เป็นการสืบเพิ่มเติมตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารสัญญากู้ไม่
จำเลยมอบนาให้โจทก์ทำต่างดอกเบี้ย และโจทก์ได้เข้าทำนาตลอดมา เมื่อจำเลยยังไม่ได้ชำระหนี้เงินกู้ และโจทก์ยังไม่ส่งมอบนาคืนการที่จำเลยเข้าไปไถนาทับที่ย่อมเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์ 4,000 บาท และมอบนาให้ทำต่างดอกเบี้ย จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน ปี 2507 โจทก์จ้างรถไถนาและหว่านข้าว จำเลยที่ 1 กับที่ 3 กลับสมคบกันเอารถเข้าไปไถนาทับที่ ทำให้โจทก์เสียหาย 1,230 บาท ขอให้บังคับจำเลยใช้ต้นเงินกู้และค่าเสียหาย
จำเลยที่ 1 ต่อสู้ว่า ได้กู้เงินโจทก์และมอบนาให้โจทก์ยึดไว้เป็นหลักประกันมิได้ตกลงให้โจทก์ทำต่างดอกเบี้ย โจทก์เอานาจำเลยไปให้ผู้อื่นเช่าโดยพลการ จำเลยก็เข้าไถทำต่อ จำเลยพร้อมที่จะชำระหนี้ ขอให้ยกฟ้อง

จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การ

จำเลยที่ 3 ปฏิเสธว่าไม่ได้เข้าไถนา

หลังวันชี้สองสถาน โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้อง เรียกค่าเสียหายเพิ่มอีก 4,700 บาท ศาลชั้นต้นอนุญาต

จำเลยที่ 1 คัดค้าน และต่อสู้ว่า โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายเพิ่ม

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินกู้โจทก์ 4,000 บาท จำเลยที่ 1 ไม่ใช้ ให้จำเลยที่ 2 ใช้แทน และให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าเสียหาย 5,780 บาท ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 3

จำเลยที่ 1 ผู้เดียวอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้องหลังวันชี้สองสถานไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 1,080 บาท

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยตามประเด็นในฎีกาจำเลยว่า การที่โจทก์นำสืบว่าการกู้ยืมรายนี้จำเลยมอบนาให้โจทก์ทำต่างดอกเบี้ย เป็นการนำสืบพยานบุคคลเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารสัญญากู้หรือไม่นั้น เห็นว่า สัญญากู้มีข้อความว่าไม่มีดอกเบี้ย โจทก์จึงนำสืบว่า ไม่มีดอกเบี้ยที่คิดเป็นจำนวนเงิน แต่จำเลยยอมให้โจทก์ทำนาต่างดอกเบี้ย เป็นการอธิบายความหมายของสัญญากู้หาใช่เป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในสัญญากู้ไม่โจทก์มีสิทธินำสืบได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 (ข) และวินิจฉัยต่อไปว่า การที่โจทก์ได้เข้าทำนาพิพาทตลอดมาต้องถือว่า โจทก์มีสิทธิเข้าทำโดยชอบ เมื่อปรากฏว่าจำเลยยังไม่ได้ชำระหนี้เงินกู้และโจทก์ยังไม่ส่งมอบนาคืน การที่จำเลยเข้าไปไถนาทับที่จึงเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่า จำเลยได้นำเงินไปชำระแล้วโจทก์ไม่ยอมรับ

พิพากษายืน

Share