คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 79/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้อุทิศที่พิพาทให้เป็นทางสาธารณะแล้ว การอุทิศที่ให้เป็นทางสาธารณะย่อมสมบูรณ์แม้จะมิได้จดทะเบียน (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 506/2490) การที่จำเลยปักเสาลงในที่พิพาทเป็นเหตุให้โจทก์ซึ่งมีที่ดินอยู่ในซอยตากสิน 8 ไม่อาจใช้ซอยดังกล่าวได้เหมือนเดิม ทำให้โจทก์เสียหายเป็นพิเศษกว่าคนอื่น ๆ เป็นการละเมิดโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้ศาลสั่งให้จำเลยระงับความเสียหายได้(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1138-1139/2501)
โจทก์บรรยายฟ้องว่าซอยตากสิน 8 มีมาประมาณ 20 ปี โดยเจ้าของที่ดินแต่ละรายสละที่ดินของตนรวมทั้งจำเลยด้วยเพื่อเป็นทางสำหรับให้ประชาชนใช้ร่วมกันโจทก์และ บริวารใช้สอยซอยตากสิน 8 ผ่านเข้าออกสู่ถนนสาธารณะโดยผ่านที่ดินจำเลยเกินกว่า 10 ปีแล้วซอยตากสิน 8 จึงเป็นทางภารจำยอม จำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้มีทางอยู่เลยจำเลยและ อ. เพิ่งทำเป็นถนนขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2502 ดังนี้จำเลยมิได้หลงผิดต่อสู้ว่าทางพิพาทมิได้ตกอยู่ในภารจำยอมแต่อย่างใด และการที่ศาลฟังว่าจำเลยอุทิศที่พิพาทให้เป็นทางสาธารณะแล้วไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นเพราะโจทก์ได้ บรรยายการอ้างถึงสิทธิของโจทก์ที่จะผ่านเข้าออกทางพิพาทนี้มาในฟ้องแล้ว เพียงแต่กล่าวอ้างเป็นทางภารจำยอมไปเท่านั้น (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 217/2509)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์จำเลยต่างเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดที่ ๑๖๖ และ ๑๗๕ ตามลำดับอยู่ริมซอยตากสิน ๘ จำเลยสละที่ดินประมาณ ๓๘ ตารางวาให้เป็นทางไปสู่ถนนเจริญนครทางทิศตะวันออก และไปสู่ถนนตากสินทางทิศตะวันตกสำหรับประชาชนใช้สอยร่วมกัน โจทก์และบริวารใช้ซอยตากสิน ๘ ผ่านเข้าออกสู่ถนนสาธารณะโดยผ่านที่ดินจำเลยตรงเนื้อที่ประมาณ ๓๘ ตารางวามาเกินกว่า ๑๐ ปีแล้ว ซอยตากสิน ๘ จึงเป็นทางภารจำยอมตามกฎหมาย จำเลยปักเสากั้นซอยตากสิน ๘ ตรงที่ดิน ๓๘ ตารางวาของจำเลยขอให้จำเลยรื้อถอนเสาที่ปักไว้ออกไปจากซอยตากสิน ๘ อันเป็นทางภารจำยอม
จำเลยให้การว่าจำเลยใช้สิทธิในเขตโฉนดของจำเลยโดยชอบจำเลยไม่เคยสละที่ดินทำทาง ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนเสาที่ปักไว้ในซอยตากสิน ๘ ออกไป ห้ามจำเลยและบริวารปักเสาหรือปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ลงในซอยดังกล่าว
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังได้ว่าจำเลยได้อุทิศที่พิพาทให้เป็นทางสาธารณะแล้ว การอุทิศที่ให้เป็นทางสาธารณะย่อมสมบูรณ์แม้จะมิได้จดทะเบียนดังนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๕๐๖/๒๔๙๐ การที่จำเลยปักเสาลงในที่พิพาทเป็นเหตุให้โจทก์ซึ่งมีที่ดินอยู่ในซอยตากสิน ๘ ไม่อาจใช้ซอยดังกล่าวได้เหมือนเดิม ทำให้โจทก์เสียหายเป็นพิเศษกว่าคนอื่น ๆ เป็นการละเมิด โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้ศาลสั่งให้จำเลยระงับความเสียหายได้ ดังนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๓๘-๑๑๓๙/๒๕๐๑
ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ฟ้องว่าทางพิพาทเป็นทางภารจำยอมไม่ได้ฟ้องว่าเป็นทางสาธารณะทำให้จำเลยหลงผิด ต่อสู้ว่าทางพิพาทมิได้ตกอยู่ในภารจำยอม ได้พิเคราะห์คำฟ้องของโจทก์และคำให้การต่อสู้คดีของจำเลยแล้ว เห็นว่าโจทก์บรรยายฟ้องแล้วว่าซอยตากสิน ๘ มีมาประมาณ ๒๐ ปี โดยเจ้าของที่ดินแต่ละรายสละที่ดินของตนรวมทั้งจำเลยด้วยเพื่อเป็นทางสำหรับให้ประชาชนใช้ร่วมกัน จำเลยก็ให้การปฏิเสธว่ามิได้มีทางอยู่เลยจำเลยและนายเอนกเพิ่งทำเป็นถนนขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๒ จำเลยจึงมิได้หลงผิดแต่อย่างใด และกรณีไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นเพราะโจทก์ได้บรรยายกล่าวอ้างถึงสิทธิของโจทก์ที่จะผ่านเข้าออกทางพิพาทนี้มาในฟ้องแล้วเพียงแต่กล่าวอ้างเป็นทางภารจำยอมไปเท่านั้นตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๒๑๗/๒๕๐๙
พิพากษายืน

Share