คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7897/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาทในการซื้อเครื่องรับโทรทัศน์มอบให้แก่บริษัท พ. แต่บริษัทมิได้ส่งมอบเครื่องรับโทรทัศน์ให้ จำเลยจึงมีคำสั่งให้ธนาคารระงับการจ่ายเงิน เมื่อปรากฏว่าบริษัท พ. ได้นำเช็คพิพาทไปขายลดแก่โจทก์ต่อมาโจทก์ในฐานะผู้ทรงเช็คคนก่อนได้ฟ้องบริษัท พ. ให้ชำระหนี้ตามสัญญาขายลดเช็คซึ่งมีเช็คพิพาทรวมอยู่ด้วย โจทก์และบริษัท พ. ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยบริษัท พ. ยอมชำระเงินให้โจทก์ตามฟ้อง ถือได้ว่าโจทก์สละสิทธิเรียกร้องตามเช็คพิพาทไปแล้ว โดยโจทก์ได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์จึงไม่มีสิทธินำเช็คพิพาทมาเรียกร้องให้จำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายชำระเงินแก่โจทก์อีก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 127,906.68 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 120,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า เช็คพิพาททั้งสองฉบับ จำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายในการซื้อเครื่องรับโทรทัศน์แก่บริษัทพอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัดแต่บริษัทดังกล่าวมิได้ส่งมอบเครื่องรับโทรทัศน์ให้ จำเลยจึงมีคำสั่งให้ธนาคารระงับการจ่ายเงิน บริษัทพอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำเช็คพิพาททั้งสองฉบับไปขายลดแก่โจทก์ ต่อมาโจทก์ได้ฟ้องบริษัทพอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ชำระหนี้ตามสัญญาขายลดเช็ค 20 ฉบับ ซึ่งมีเช็คพิพาททั้งสองฉบับรวมอยู่ด้วยปรากฏตามสำเนาคำฟ้องเอกสารหมาย จ.1 คดีดังกล่าวโจทก์และบริษัทพอสโซ่ (ประเทศไทย)จำกัด ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยบริษัทดังกล่าวยอมชำระเงินให้โจทก์ตามฟ้อง ปรากฏตามสำเนาสัญญาประนีประนอมยอมความ เอกสารหมาย จ.2แต่โจทก์ยังมิได้รับชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ จึงได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้

มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์ฟ้องบริษัทพอสโซ่ (ประเทศไทย)จำกัด ให้รับผิดในฐานะผู้ขายลดเช็ค ส่วนจำเลยโจทก์ฟ้องในฐานะผู้สั่งจ่ายเช็ค มูลหนี้ที่ฟ้องต่างกันจำเลยจึงยังคงต้องรับผิดตามเช็ค เห็นว่า โจทก์ฟ้องบริษัทพอสโซ่(ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้ทรงเช็คพิพาทคนก่อนซึ่งนำมาขายลดให้เมื่อบริษัทดังกล่าวและโจทก์ได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยบริษัทดังกล่าวยอมชำระหนี้ทั้งหมดที่มีต่อโจทก์รวมทั้งหนี้เงินตามเช็คพิพาทด้วย ถือได้ว่าโจทก์สละสิทธิเรียกร้องตามเช็คพิพาทไปแล้วโดยได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์จึงไม่มีสิทธินำเช็คพิพาทมาเรียกร้องให้จำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายชำระเงินให้อีก

พิพากษายืน

Share