แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทฟ้องว่าจำเลยทำผิดคืนวันที่ 20-21 และวงเล็บว่าตรงกับขึ้น 14 ค่ำ จำเลยรับสารภาพแต่เปนคดีอุกฉกรรจ์ โจทนำพยานมาสืบว่าจำเลยทำผิดคืนวันขึ้น 14 ค่ำ ซึ่งตรงกับคืนวันที่ 21-22 และจำเลยเข้าไจข้อหาดีดังนี้ ไม่ถือว่าทางพิจารนาต่างกับฟ้อง ลงโทสได้.
ย่อยาว
โจทฟ้องว่าจำเลยชิงทรัพย์ไนเคหะสถานไนเวลาค่ำคืน สาลชั้นต้นยกฟ้องโดยเห็นว่า โจทนำสืบข้อเท็ดจิงผิดวันต่างกับฟ้อง.
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์เห็นฟ้องของโจทไม่ผิดวันจึงพิพากสาลงโทส
จำเลยดีกา
สาลดีกาเห็นว่า ฟ้องโจทบันยายว่า จำเลยกะทำผิดเมื่อระหว่าเวลาพระอาทิตย์ตกของวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๔๘๕ ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นของวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๔๘๕ (ตรงกับคืนวันขึ้น ๑๔ ค่าเดือนอ้าย) จำเลยรับสารภาพแต่เปนคดีมีอัตราโทสสูงสาลต้องฟังพยานโจทจนกว่าจะพอไจ โจทนำสืบประกอบกับคำรับสารภาพของจำเลยว่า จำเลยทำผิดจิงไนวันขึ้น ๑๔ ค่ำเดือนอ้าย แม้จะปรากตว่าเหตุเกิดเวลาประมาน ๔ น. ของคืนที่เรียกกันว่าขึ้น ๑๔ ค่าเดือนอ้าย ซึ่งเปนระหว่างเวลาพระอาทิตย์ตกของวันที่ ๒๑ ถึงพระอาทิตย์ขึ้นของวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๔๘๕ ก็ดี ก็จะถือว่าฟ้องโจทผิดวันกับที่โจทนำสืบไม่ได้เพราะฉะเพาะคดีนี้ ตามที่จำเลยรับเห็นได้ว่าจำเลยเข้าไจข้อหาได้ดี จึงพิพากสายืน
