คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2537

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

สิทธิเรียกร้องให้คืนเงินค่าสินค้าในกรณีสัญญาซื้อขายเลิกกันไม่มีกฎหมายบัญญัติเกี่ยวกับอายุความไว้โดยเฉพาะจึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164 เดิม

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) ทั้งสองไว้เด็ดขาด เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ค่าสินค้าตามสัญญาซื้อขายเป็นเงิน 8,316,893.30 บาทจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 2
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดตรวจคำขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 104 แล้วไม่มีผู้ใดโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้ว เห็นว่าเจ้าหนี้ได้รับมอบสินค้าเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2526 มิได้ฟ้องคดีภายใน 1 ปีจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 504ทั้งเครื่องกลึงดังกล่าวแม้จะมีหัวเพลาไม่ตรงตามลักษณะที่กำหนดแต่ก็ใช้การได้ตามวัตถุประสงค์ เจ้าหนี้ไม่อาจเรียกค่าเสียหายจากห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกกลการได้ และไม่อาจบอกล้างนิติกรรมซื้อขายระหว่างเจ้าหนี้กับห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกกลการ ซึ่งมีผลต่อมาว่าลูกหนี้ที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกกลการไม่ต้องรับผิดด้วย จึงเห็นควรยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้เสียทั้งสิ้นตามความในมาตรา 107(1)แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า ให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้จำนวน5,810,930 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่13 กุมภาพันธ์ 2527 ถึงวันที่ 24 มกราคม 2533 จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 2 ตามมาตรา 130(8) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 ทั้งนี้โดยเงื่อนไขว่าหากได้รับชำระหนี้จากห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกกลการในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1109-1110/2532 ของศาลชั้นต้นแล้วเพียงใดก็ให้สิทธิในการรับชำระหนี้ลดลงเพียงนั้น
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงตามทางสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2526เจ้าหนี้ได้ประกาศแจ้งความประกวดราคาซื้อเครื่องกลึงโลหะและอุปกรณ์ชุดเครื่องกลึงเรียว เพื่อใช้ในการศึกษาให้แก่โรงเรียนในโครงการพัฒนาโรงเรียนมัธยมส่วนภูมิภาค โดยกำหนดคุณลักษณะเฉพาะมีสาระสำคัญตามประกาศเอกสารหมาย จ.11 ถึง จ.13 มีผู้ยื่นซองเสนอราคา 10 ราย รวมทั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกกลการซึ่งมีลูกหนี้ที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการด้วยโดยห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกกลการกำหนดลักษณะเฉพาะในใบเสนอราคาตามเอกสาร จ.15 และคณะกรรมการเปิดซองเสนอให้เจ้าหนี้ซื้อตามเอกสารหมาย จ.14 ซึ่งเจ้าหนี้กับห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกกลการได้ตกลงทำสัญญาซื้อขายกันในวันที่ 25 สิงหาคม 2526 ซึ่งคณะกรรมการตรวจรับของเจ้าหนี้ได้ตรวจรับเครื่องกลึงโลหะและอุปกรณ์ชุดเครื่องกลึงเรียวจากห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกกลการเมื่อวันที่23 ธันวาคม 2526 และชำระราคาเป็นเงิน 5,810,930 บาท ให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกกลการผู้ขายแล้วเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์2527 ต่อมาคณะกรรมการตรวจสอบคุณลักษณะของเจ้าหนี้ได้ตรวจพบว่าคุณลักษณะเฉพาะของเครื่องกลึงโลหะและเพลาหัวเครื่องไม่ตรงตามใบเสนอราคาและตามที่เจ้าหนี้กำหนดทั้งผิดไปจากที่ตกลงกันไว้ในสัญญาซื้อขายด้วย เจ้าหนี้จึงบอกเลิกสัญญาและเรียกค่าเสียหายคือราคาที่ได้ชำระไปคืน แต่ลูกหนี้ที่ 2 เพิกเฉยเจ้าหนี้จึงฟ้องคดีต่อศาลชั้นต้นให้ลูกหนี้ที่ 2 รับผิดตามเอกสารหมาย จ.5 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2530 ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เป็นคดีหมายเลขแดงที่ 1109-1110/2532 คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ เมื่อลูกหนี้ที่ 2 ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเจ้าหนี้จึงมายื่นคำขอรับชำระหนี้คดีนี้ ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยในชั้นนี้มีว่าเจ้าหนี้มีสิทธิได้รับชำระหนี้รายนี้หรือไม่
พิเคราะห์แล้ว ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกาว่าเครื่องกลึงโลหะซึ่งห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกกลการโดยลูกหนี้ที่ 2หุ้นส่วนผู้จัดการเป็นผู้เสนอขายนั้น มีคุณลักษณะตรงตามใบเสนอราคาและสัญญาซื้อขาย ทั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกกลการได้ส่งมอบให้เจ้าหนี้ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2526 ซึ่งเจ้าหนี้ก็ได้ตรวจรับไว้โดยมิได้อิดเอื้อนทักท้วงแล้ว ถือว่าเจ้าหนี้สละสิทธิบอกเลิกสัญญาและเรียกค่าเสียหายแล้ว ทั้งการฟ้องคดีให้ลูกหนี้ที่ 2รับผิดก็ขาดอายุความ 1 ปี นับแต่วันรับมอบแล้วนั้น เห็นว่าการซื้อขายสินค้ารายนี้ก่อนที่จะมีการตกลงทำสัญญากัน ผู้ซื้อคือเจ้าหนี้ได้มีการประกาศแจ้งความประกวดราคาสินค้าที่ต้องการซื้อโดยได้กำหนดตามลักษณะเฉพาะของสินค้าอันเป็นสาระสำคัญที่จะนำมาใช้งานไว้ด้วยตามเอกสารหมาย จ.11 ถึง จ.13 เมื่อผู้ขายคือห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกกลการยื่นซองเสนอราคาของสินค้าตามประกาศนั้น ในใบเสนอราคาก็ได้ระบุสินค้าโดยมีคุณลักษณะเฉพาะตรงตามที่เจ้าหนี้ผู้ซื้อได้กำหนดไว้ทุกประการ เจ้าหนี้จึงตกลงซื้อ รายละเอียดตามเอกสารหมาย จ.14และ จ.15 โดยมีการทำสัญญาซื้อขายและชำระราคากันแล้วการซื้อขายดังกล่าวจึงเป็นการซื้อขายธรรมดาอันเกิดจากการเสนอและสนองรับในการซื้อขายสินค้าระหว่างห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกกลการกับเจ้าหนี้ตามเงื่อนไขเรียกประกวดราคาของเจ้าหนี้ ไม่ใช่เป็นการซื้อขายตามตัวอย่างหรือคำพรรณนา และได้ความตามทางสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า หลังจากเจ้าหนี้รับมอบสินค้าไปแล้วก็ปรากฏว่าเครื่องกลึงโลหะและอุปกรณ์ชุดเครื่องกลึงคือเพลาหัวเครื่องมีคุณลักษณะเฉพาะไม่ตรงตามสัญญากับใบเสนอราคาและไม่ตรงตามที่เจ้าหนี้กำหนด ทำให้เจ้าหนี้ไม่อาจนำไปใช้ในโครงการพัฒนาโรงเรียนมัธยมส่วนภูมิภาคได้ ซึ่งตามฎีกาของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็มิได้ยืนยันข้อเท็จจริงว่าหัวเพลาเครื่องซึ่งเป็นอุปกรณ์เครื่องกลึงเป็นไปตามคุณลักษณะเฉพาะที่เจ้าหนี้กำหนด เพียงแต่อ้างว่าเครื่องกลึงโลหะใช้การได้ตามวัตถุประสงค์ของเจ้าหนี้ ซึ่งรับมอบไว้โดยไม่ทักท้วงหรืออิดเอื้อนเท่านั้นเท่ากับยอมรับว่าหัวเพลาเครื่องที่ส่งมอบให้เจ้าหนี้ไม่เป็นไปตามคุณลักษณะเฉพาะที่กำหนดไว้ในสัญญา คดีจึงฟังได้ว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกกลการโดยลูกหนี้ที่ 2 หุ้นส่วนผู้จัดการเป็นผู้ผิดสัญญาซื้อขายไม่ส่งมอบสินค้าให้เจ้าหนี้ตามสัญญาเจ้าหนี้ย่อมเสียหายและบอกเลิกสัญญาเสียได้ ลูกหนี้ที่ 2 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกกลการจึงต้องร่วมรับผิดคืนเงินค่าสินค้าพร้อมดอกเบี้ยให้แก้เจ้าหนี้ ทั้งสิทธิเรียกร้องให้คืนเงินค่าสินค้าในกรณีสัญญาซื้อขายเลิกกันไม่มีกฎหมายบัญญัติเกี่ยวกับอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 เดิม หาใช่ 1 ปีตามฎีกาของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ หนี้ที่เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ยังไม่ขาดอายุความเจ้าหนี้จึงมีสิทธิได้รับชำระหนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share