แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์และผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันอีก 2 คน รับโอนบ้านพิพาทซึ่งจำเลยเช่าอยู่เดิม จำเลยไม่ชำระค่าเช่าบ้านพิพาทให้โจทก์อันเป็นการผิดสัญญา โจทก์แต่ผู้เดียวย่อมมีอำนาจบอกเลิกสัญญา และฟ้องขับไล่จำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1359
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์รับโอนบ้านพิพาทมาจากนายพูนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์2519 จำเลยเช่าบ้านหลังนี้อยู่ค่าเช่าเดือนละ 500 บาท จำเลยมิได้ชำระค่าเช่าให้โจทก์ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2519 เดือนพฤศจิกายน 2519 โจทก์ถือว่าจำเลยผิดสัญญาจึงบอกเลิกการเช่า ขอให้ขับไล่และให้จำเลยชดใช้ค่าเช่าที่ค้างและค่าเสียหายเดือนละ 500 บาท
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้ผิดสัญญาโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง โจทก์ไม่เคยแจ้งการโอนให้จำเลยทราบ ปรากฏว่าผู้รับโอนห้องพิพาทมีหลายคน โจทก์คนเดียวไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยไม่ชำระค่าเช่าให้แก่โจทก์ผู้รับโอน เป็นการผิดสัญญา โจทก์มีอำนาจบอกเลิกสัญญาและฟ้องขับไล่ พิพากษาขับไล่จำเลยให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้างและค่าเสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์ผู้เดียวมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าและฟ้องขับไล่จำเลยโดยเจ้าของรวมอีกสองคนไม่ต้องร่วมกระทำด้วย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์เป็นเจ้าของรวมย่อมมีสิทธิบอกเลิกการเช่าเพื่อประโยชน์แก่เจ้าของรวมคนอื่น ๆ ได้ และลำพังโจทก์แต่ผู้เดียวย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1359 จำเลยไม่อาจโต้เถียงอำนาจฟ้องของโจทก์ได้ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 161/2509
พิพากษายืน