คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 780/2531

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้โจทก์ที่ 4 และโจทก์ที่ 6 มิได้มาเบิกความต่อศาล แต่โจทก์ทั้งสองได้แต่งตั้งโจทก์ที่ 1 เป็นผู้แทนในการดำเนินคดีกระบวนพิจารณาใดที่โจทก์ที่ 1 กระทำต่อศาลหรือต่อจำเลยจึงถือว่าโจทก์ที่ 4 และโจทก์ที่ 6 กระทำต่อศาลและต่อจำเลยแล้วเช่นกัน คดีนี้โจทก์ที่ 1 ได้มาเบิกความต่อศาลและเบิกความถึงฐานะของโจทก์ที่ 4 และโจทก์ที่ 6 ว่า โจทก์ที่ 4และโจทก์ที่ 6 มีวันเข้าทำงานตำแหน่งหน้าที่ อัตราเงินเดือนและวันออกจากงานตามที่ระบุไว้ตามบัญชีท้ายฟ้อง และเบิกความว่า โจทก์ทั้งสองถูกจำเลยเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด ดังนี้จึงถือได้ว่า โจทก์ที่ 4 และโจทก์ที่ 6 โดยโจทก์ที่ 1 ได้นำสืบพยานหลักฐานตามประเด็นข้อพิพาทตามหน้าที่ของโจทก์ที่4 และโจทก์ที่ 6 แล้ว โดยหาต้องมาเบิกความด้วยตนเองไม่.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ทั้งหกฟ้องว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งหกโดยโจทก์ทั้งหกไม่ได้กระทำความผิด ขอให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์ทั้งหกไม่ได้เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย และจำเลยไม่เคยเลิกจ้างโจทก์ทั้งหก แต่โจทก์ทั้งหกไม่มาทำงานกับจำเลยเอง ขอให้ยกฟ้อง
ในระหว่างการพิจารณาของศาลแรงงานกลาง โจทก์ที่ 3 และโจทก์ที่ 5 ขอถอนฟ้อง ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งอนุญาตและให้จำหน่ายคดีเฉพาะโจทก์ที่ 3 และโจทก์ที่ 5
สำหรับคดีของโจทก์ที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 และที่ 6 ศาลแรงงานกลางพิพากษาว่าโจทก์ทั้งสี่เป็นพนักงานของบริษัทจำเลย จำเลยเลิกจ้างโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้าจึงต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ‘จำเลยอุทธรณ์ตามข้อ 2.2ซึ่งศาลแรงงานกลางสั่งรับข้อเดียวว่า ตามบทบัญญัติของกฎหมายให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดตัดสินคดีไปตามประเด็นข้อพิพาทคดีนี้โจทก์ที่ 4 และโจทก์ที่ 6 กล่าวอ้างข้อเท็จจริงตามฟ้องแล้วไม่ได้มาเบิกความ และไม่ได้นำสืบข้อเท็จจริงตามที่ศาลกำหนดหน้าที่นำสืบจึงไม่มีพยานหลักฐานมายืนยันต่อศาลว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง การที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์ที่ 4 และโจทก์ที่ 6 จึงไม่ชอบ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้โจทก์ที่ 4 และโจทก์ที่ 6 มิได้มาเบิกความต่อศาลก็ตาม แต่โจทก์ทั้งสองได้แต่งตั้งโจทก์ที่ 1 เป็นผู้แทนในการดำเนินคดี เพราะฉะนั้น กระบวนพิจารณาใดที่โจทก์ที่ 1 กระทำต่อศาลหรือต่อจำเลย จึงถือว่าโจทก์ที่ 4 และโจทก์ที่ 6 กระทำต่อศาลและต่อจำเลยแล้วเช่นกันคดีนี้โจทก์ที่ 1 ได้มาเบิกความต่อศาลและเบิกความถึงฐานะของโจทก์ที่ 4 และโจทก์ที่ 6 ว่า โจทก์ที่ 4 และโจทก์ที่ 6 มีวันเข้าทำงานตำแหน่งหน้าที่ อัตราเงินเดือน และวันออกจากงานตามที่ระบุไว้ตามบัญชีท้ายฟ้องและเบิกความว่าโจทก์ทั้งสองถูกจำเลยเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด ดังนี้จึงถือได้ว่าโจทก์ที่ 4 และโจทก์ที่ 6 โดยโจทก์ที่ 1 ได้นำสืบพยานหลักฐานตามประเด็นข้อพิพาทตามหน้าที่ของโจทก์ที่ 4และโจทก์ที่ 6 แล้ว โดยหาจำต้องให้โจทก์ที่ 4 และโจทก์ที่ 6 ต้องมาเบิกความด้วยตนเองดังที่จำเลยอุทธรณ์ไม่ อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น’
พิพากษายืน.

Share