แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์จำเลยพิพาทกันมีทุนทรัพย์ 500 บาท แล้วมีผู้ร้องสอดเข้ามาตั้งข้อพิพาทกับจำเลยอีกส่วนหนึ่งไม่เกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยดังนี้ จะเอาราคาทุนทรัพย์ในส่วนที่ผู้ร้องสอดเข้ามารวมกับทุนทรัพย์ตามฟ้องด้วย เพื่อทำให้คดีของโจทก์มีทุนทรัพย์เกิน 500 บาทนั้น ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินพิพาทราคา 450 บาทเป็นของโจทก์ และเรียกค่าเสียหายอีก 50 บาท รวมเป็นทุนทรัพย์ 500 บาท จำเลยเถียงกรรมสิทธิ์และปฏิเสธค่าเสียหาย
ในการทำแผนที่พิพาท จำเลยชี้ที่ที่ว่าเป็นของจำเลยเกินไปจากที่พิพาทกับโจทก์ นางพุ่มคัดค้านว่าที่ที่จำเลยชี้เกินไปนี้เป็นของนางพุ่ม จึงร้องสอดเข้ามาขอว่าคดีกับจำเลยร่วมกับโจทก์ศาลชั้นต้นอนุญาตที่ส่วนนี้ราคา 100 บาท
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์และคำร้องสอดของนางพุ่มในประเด็นข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์และนางพุ่มฎีกา แต่ฎีกาได้เฉพาะข้อกฎหมายที่ว่าคดีมีทุนทรัพย์เกิน 500 บาท ศาลชั้นต้นมีผู้พิพากษานายเดียวดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาคดีไม่ชอบด้วยพระธรรมนูญศาลยุติธรรม
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์จำเลยพิพาทกันมีทุนทรัพย์เพียง 500 บาท ส่วนที่นางพุ่มร้องสอดเข้ามานั้น เป็นการตั้งข้อพิพาทกับจำเลยอีกส่วนหนึ่งไม่เกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยฉะนั้นจึงเอาราคาที่ดินในส่วนที่นางพุ่มร้องสอดเข้ามารวมกับทุนทรัพย์ตามฟ้องโจทก์ด้วยไม่ได้ การอุทธรณ์ฎีกาโจทก์และนางพุ่มต่างก็เสียค่าฤชาธรรมเนียมศาลคนละต่างหาก ฉะนั้นจะถือว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ เกิน 500 บาทไม่ได้ ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นนายเดียวก็มีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้ จึงพร้อมกันพิพากษายืน