คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การกระทำใดเป็นความผิดร้ายแรงตามข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้าง ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 47(3) หรือไม่ ต้องพิจารณาจากการกระทำนั้น ๆ เอง มิใช่ถือเอาการกระทำใด ๆ ของนายจ้างอันเกิดขึ้นต่อภายหลังมาเป็นข้อประกอบการพิจารณา การที่โจทก์เป็นเจ้ามือสลากกินรวบในสถานที่ทำงานของนายจ้างเป็นที่ประจักษ์อยู่ในตัวโดยไม่จำต้องอธิบายใด ๆ ว่าเป็นความผิดเป็นกรณีที่ร้ายแรง แม้นายจ้างจะมิได้เลิกจ้างลูกจ้างอื่นที่ร่วมเล่นการพนันกับโจทก์ด้วย นายจ้างก็เลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าและไม่ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชย.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้จ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำ ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ 7,110 บาท กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันที่ 28 ของเดือน ต่อมาจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยโจทก์ไม่มีความผิด จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ไม่จ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ไม่จ่ายค่าชดเชย ขอให้ศาลบังคับจำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า 9,243 บาทและค่าชดเชย 42,660 บาท แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะโจทก์เป็นเจ้ามือหรือรับแทงสลากกินรวบในที่ทำงานของจำเลย อันเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับการทำงานของจำเลย เป็นความผิดที่ร้ายแรงจำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ไม่ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า โจทก์กระทำผิดข้อบังคับการทำงานของจำเลยข้อ 3.5 ที่ห้ามเล่นการพนันในสถานที่ทำงานของจำเลย เป็นความผิดอย่างร้ายแรงตามข้อ 3 จำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ไม่ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ‘โจทก์อุทธรณ์ว่า แม้ตามข้อบังคับการทำงานของจำเลยได้ระบุไว้ว่า การเล่นพนันในสถานที่ทำงานเป็นความผิดอย่างร้ายแรงก็ตาม แต่โดยข้อเท็จจริงหาเป็นความผิดที่ร้ายแรงไม่ เพราะมิฉะนั้นแล้วจำเลยจะต้องเลิกจ้างลูกจ้างอีกหลายคนที่ร่วมเล่นการพนันกับโจทก์ ซึ่งจำเลยเลิกจ้างโจทก์เพียงผู้เดียว มิได้เลิกจ้างลูกจ้างอื่น ๆ เลย ศาลฎีกาเห็นว่า การกระทำใดเป็นความผิดร้ายแรงตามข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้าง เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงานเป็นกรณีที่ร้ายแรงตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 47 (3) หรือไม่ จะต้องพิจารณาจากการกระทำนั้น ๆ เอง แล้วปรับด้วยข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้าง และปรับตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ฯ ตามที่กล่าวข้างต้น มิใช่จะถือเอาการกระทำใด ๆ ของนายจ้างอันเกิดขึ้นต่อภายหลังมาเป็นข้อประกอบการพิจารณา การเป็นเจ้ามือสลากกินรวบรับแทงรับใช้ในสถานที่ทำงานของนายจ้างเป็นที่ประจักษ์อยู่ในตัวโดยไม่จำต้องมีคำอธิบายใด ๆว่าเป็นความผิดเป็นกรณีที่ร้ายแรง ที่โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้เลิกจ้างลูกจ้างอื่นที่ร่วมเล่นการพนันกับโจทก์ด้วย การกระทำของโจทก์จึงมิใช่เป็นความผิดเป็นกรณีที่ร้ายแรงนั้น หาเป็นเหตุเป็นผลแก่กันและกันไม่ อุทธรณ์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น…’
พิพากษายืน.

Share