แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลพิพากษายกฟ้องในคดีก่อน โดยวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยที่โจทก์กล่าวอ้างมาในฟ้องนั้น ไม่แน่ชัดว่า จำเลยได้กระทำผิดในเวลาใด ซึ่งจะลงโทษจำเลยสำหรับความผิดที่ขอให้ลงโทษไม่ได้ ดังนี้ถือได้ว่า ศาลได้พิพากษาคดีในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว จะฟ้องอีกไม่ได้เป็นฟ้องซ้ำ.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม. ๒๕๖ ปรากฎว่า โจทก์ได้เคยฟ้องจำเลยในความนี้ มาครั้งหนึ่ง แต่ศาลพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ในคดีก่อน ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยอ้างเหตุว่า ฟ้องของโจทก์ไม่ระบุเวลา เป็นฟ้องไม่ถูก ต้องตาม ป.ม.วิ. อาญา ม.๑๕๘(๕) มิได้ยกฟ้องโดยเห็นว่ากรณีย์ ไม่เป็นความผิดจึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาแล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกา เห็นว่า ศาลชั้นต้นได้พิพากษายกฟ้องคดีก่อนโดยวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยที่โจทก์กล่าวอ้างมาในฟ้องนั้น ไม่ปรากฎแน่ชัดว่าจำเลยได้กระทำผิดในเวลาใด ซึ่งจะลงโทษจำเลยสำหรับความผิดที่ขอให้ลงโทษนั้นไม่ได้ ดังนี้ ถือได้ว่าศาลได้พิพากษาคดีถึงที่สุดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องของโจทก์ใน คดีนี้ย่อมต้องระงับไป จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์.