คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7747/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยไม่ได้แสดงเหตุโดยละเอียดชัดแจ้งว่าคำพิพากษาไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องอย่างไรไม่มีข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลเพื่อแสดงว่าตนอาจชนะคดีได้อย่างไรคงกล่าวแต่เพียงว่าถ้ามีการสืบพยานจำเลยแล้วจำเลยมีทางชนะคดีไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา208วรรคสองที่ศาลจะสั่งให้มีการพิจารณาใหม่ได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากอาคารพิพาท และห้ามมิให้เกี่ยวข้องอีกต่อไป ให้จำเลยชำระค่าเสียหายจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ อ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา หากจำเลยทราบว่าถูกฟ้อง และมีโอกาสนำพยานเข้าสืบต่อสู้คดีจะมีผลให้จำเลยชนะคดี คำพิพากษาของศาลชั้นต้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยกล่าวมาในคำขอว่า “หากจำเลยทราบว่าถูกฟ้องและมีโอกาสนำพยานเข้าสืบต่อสู้คดี ก็จะมีผลให้จำเลยชนะคดีโดยไม่ต้องรับผิดตามฟ้อง คำพิพากษาของศาลดังกล่าวยังไม่ชอบด้วยกฎหมายกล่าวคือที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ตั้งของตึกแถวพิพาท เดิมมีจำเลยและผู้อื่นเช่ามาจากการรถไฟฯ อยู่หลายราย ต่อมาก่อนสัญญาเช่าจะครบกำหนด จำเลยและผู้เช่าคนอื่น ๆได้ตกลงก่อตั้งบริษัทโจทก์ขึ้นเป็นตัวแทนเพื่อไปทำสัญญากับการรถไฟฯเพื่อนำมาจัดสรรแบ่งให้กับผู้เช่าคนอื่น ๆ และจำเลยและสามารถดำเนินการได้” ข้อความดังกล่าวไม่ได้แสดงเหตุโดยละเอียดชัดแจ้งว่า คำพิพากษาไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องอย่างไร ไม่มีข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลเพื่อแสดงว่าตนอาจชนะคดีได้อย่างไร คงกล่าวแต่เพียงว่าถ้ามีการสืบพยานจำเลยแล้ว จำเลยก็มีทางชนะคดี คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา208 วรรคสอง ที่ศาลจะสั่งให้มีการพิจารณาใหม่ได้
พิพากษายืน

Share