คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ศาลสั่งไม่อนุญาตให้คู่ความอ้างพยานเพิ่มเติมตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา 88 + ก็ดี การที่ศาลไม่ไปดูที่พิพาทก็ดี เป็นเรื่องดุลยพินิจของศาล การโต้แย้งดุลยพินิจของศาลเป็นการโต้แย้งดุลยพินิจของศาลเป็นการโต้แย้งในข้อเท็จจริง

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องว่าโจทก์มีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่ดินโฉนดที่ ๒๔๘๗ ตำบลคมบาง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เนื้อที่ประมาณ ๓ ไร่ โดยโจทก์ซื้อจากนายเกตุ ได้ทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันเองโดยมิได้แก้ทะเบียหลังโฉนด และได้เข้าครอบครองเป็นเจ้าของมาเป็นเวลา ๒๒ ปีแล้ว โฉนดและสัญญาปลวกกัดกินสูนย์หายไป จึงขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ฯลฯ
จำเลยต่อสู้ว่านายเกตุไม่เคยขายที่ให้โจทก์
ศาลชั้นต้นเห็นว่าพยานจำเลยมีน้ำหนักดีกว่า พิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องจึงพิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ เพราะคดีมีทุนทรัพย์เพียง ๒,๐๐๐ บาทและเห็นว่าการที่โจทก์ขออ้างพยานเพิ่มเติม ป.วิ.แพ่งมาตรา ๘๘ วรรค ๓ ก็ดี การที่โจทก์ขอให้ศาลไปดูที่พิพาทเป็นเรื่องที่อยู่ในดุลยพินิจของศาล ๆ จะอนุญาตก็ได้ไม่อนุญาตก็ได้ การโต้แย้งในเรื่องดุลยพินิจเป็นการโต้แย้งในข้อเท็จจริง เมื่อศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยมาตรงกันแล้ว จึงฎีกาไม่ได้ จึงให้ยกฎีกาไม่ได้ จึงให้ยกฎีกาโจทก์เสีย

Share