แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยค้างชำระดอกเบี้ย 4 ปี 7 เดือน ถูกต้องแต่จำนวนดอกเบี้ย 4 ปี 7 เดือน น้อยกว่าความจริง จึงขอถอนฟ้องเพื่อฟ้องใหม่ตามจำนวนที่ถูกต้อง ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ ศาลอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ ๗๐,๐๐๐ บาท และดอกเบี้ยชั่งละ ๑ บาทต่อเดือนรวมเวลาที่ค้างชำระ ๔ ปี ๗ เดือน เป็นดอกเบี้ย ๒๔,๕๐๐ บาท
จำเลยต่อสู้ว่า ค้างชำระดอกเบี้ยเพียง ๗ เดือน ๑๐ วัน เป็นจำนวน ๖,๔๑๖.๖๕ บาท
เมื่อชี้สองสถานและนัดสืบพยานแล้ว ในวันนัดสืบพยานนั้นเอง โจทก์ได้ยื่นคำร้องอ้างว่า คำนวณจำนวนดอกเบี้ย ๔ ปี ๗ เดือน ผิดไป ควรเป็น ๔๘,๑๒๕ บาท ขอถอนฟ้องเพื่อจะฟ้องใหม่ตามจำนวนที่ถูกต้อง จำเลยแถลงคัดค้านว่าโจทก์ไม่ได้ออกใบรับเงินค่าดอกเบี้ยให้จำเลยประมาณ ๒๔,๕๐๐ บาท จึงฟ้องตามจำนวนนั้น ครั้นเห็นจำเลยไม่ได้ระบุใบรับเงินเป็นพยาน จึงต้องการฟ้องใหม่เพื่อเรียกดอกเบี้ยจำนวนที่เคยออกใบรับเงินอีก
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำสั่งของศาลชั้นต้น แล้วย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาตามรูปคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเชื่อว่าโจทก์คำนวณดอกเบี้ยผิด โดยมิได้ทำกลอุบาย แล้ววินิจฉัยว่า การที่โจทก์ขอถอนฟ้องเพื่อฟ้องใหม่ตามจำนวนดอกเบี้ยที่ถูกต้อง จำเลยไม่เสียเปรียบ
พิพากษากลับ.