คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในสัญญาเช่าข้อหนึ่งมีข้อความว่า ถ้าผู้เช่าทำผิดสัญญาหรือเมื่อเลิกสัญญาแล้วผู้เช่าให้ความยินยอมไว้ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ให้ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ได้ นั้นถือว่าเป็นความตกลงที่ทำกันไว้ล่วงหน้า พร้อมกับสัญญาเช่า หาใช่เป็นความยินยอมของผู้เช่าตามความหมายของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์โดยอ้างว่า สัญญาเช่าสิ้นอายุและโจทก์บอกเลิกสัญญาแล้ว
จำเลยต่อสู้ว่า ได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
ศาลชั้นต้นงดสืบพยาน แล้วพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาคัดค้านหลายประการ แต่ศาลชั้นต้นสั่งรับเฉพาะฎีกาข้อ ๔ ข้อเดียว ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ในฎีกาข้อ ๔ ซึ่งเป็นปัญหาจะต้องพิจารณาในชั้นนี้มีว่าในสัญญาเช่าที่จำเลยทำให้แก่โจทก์ไว้ มีข้อความบ่งชัดว่า ถ้าผู้เช่าทำผิดสัญญาหรือเมื่อเลิกสัญญาแล้ว ผู้เช่าให้ความยินยอมไว้ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ให้โจทก์ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ได้ จึงเป็นความยินยอมของผู้เช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯแล้วนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าความยินยอมของผู้เช่าในคดีนี้ เป็นความตกลงที่ทำกันไว้ล่วงหน้าพร้อมกับสัญญาเช่า มีลักษณะทำนองเดียวกับความตกลงที่จะงดใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ซึ่งเป็นกฎหมายอันเกี่ยวแก่นโยบายของรัฐบาล ผิดเจตนารมย์ของกฎหมายนั้น เพราะเพียงแต่เหตุที่สัญญาเช่าสิ้นอายุเท่านั้น ผู้ให้เช่ายังหามีสิทธิที่จะฟ้องขับไล่ไม่ กรณีทำนองนี้ศาลฎีกาได้เคยวินิจฉัยชี้ขาดไว้แล้วตามคำพิพากษาฎีกาที่ ๔๘๔/๒๔๙๑ ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
จึงพิพากษายืน

Share