แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เช่าเรือกลไฟมาเดินโดยมีข้อสัญญากันว่า เจ้าของเรือเป็นผู้ออกค่าจ้างคนเรือและค่าใช้จ่ายในเรือ ผู้เช่าไม่พอใจนายเรือหรือคนประจำเรือให้แจ้งแก่เจ้าของเรือเพื่อเปลี่ยนให้ดังนี้ นายเรือและคนประจำเรือจึงเป็นลูกจ้างของเจ้าของเรือ ผู้เช่ามิได้เป็นนายจ้างของนายเรือหรือคนประจำเรือ ไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดในผลละเมิดร่วมกับนายเรือ
ย่อยาว
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิจารณาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ ๒ เช่าเรือกลไฟนธรวิเก็นจากเจ้าของเรือมาเดินรับส่งสินค้า จำเลยที่ ๒ เป็นนายเรือ เรือนธรวิเก็นซึ่งอยู่ในความควบคุมของจำเลยที่ ๒ ไปหยุดลงสมอห่างโพงพางซ่องโจท ๒ เส้น เรือกลับลำท้ายปัดถูกโพงพางโจทก์ล้มเสียหาย เห็นว่าจำเลยที่ ๒ ผู้เป็นนายเรือต้องรับผิด ส่วนจำเลยที่ ๑ ไม่ต้องรับผิดเพราะไม่ได้ความว่าเป็นตัวแทนของเจ้าของเรือ และจำเลยที่ ๒ ไม่ได้เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๑ ทั้งจำเลยที่ ๑ ไม่ได้เข้าเกี่ยวข้องบังคับบัญชาควบคุมเรือร่วมกับจำเลยที่ ๒ พิพากษาให้จำเลยที่ ๒ ใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ส่วนจำเลยที่ ๑ ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาว่าจำเลยที่ ๑ ควรต้องรับผิดชอบใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ด้วย
ศาลฎีกาฟังได้ว่าเรือกลไฟนอรวิเก็นเป็นของชนชาตินอรเวย์ซึ่งจำเลยที่ ๑ ได้ทำสัญญาเช่ามาเพื่อเดินรับส่งสินค้า และตามสัญญาปรากฎว่าเจ้าของเรือเป็นผู้ออกค่าจ้างคนเรือและค่าใช้จ่ายในเรือ ถ้าผู้เช่าไม่พอใจกัปตันนายเรือหรือช่างกลให้แจ้งเจ้าของเรือๆ จะเปลี่ยนให้ดังนี้ แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ ๑ เป็นแต่ผู้เช่าเฉพาะมีอำนาจที่จะใช้เรือนั้นได้ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่ามิได้เป็นผู้แทนเจ้าของเรือหรือนายจ้างของจำเลยที่ ๒ เพราะเจ้าของเรือเป็นผู้ออกเงินค่าจ้างและเป็นผู้แต่งตั้งคนเรือเอง จำเลยที่ ๒ จึงเป็นลูกจ้างของเจ้าของเรือ และทั้งจำเลยที่ ๑ มิได้มีหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือนั้นด้วย จำเลยจึงไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ ๒ หรือแทนจำเลยที่ ๒ แต่ประการใด ศาลล่างมิให้จำเลยที่ ๑ ต้องรับผิดชอบแล้ว จึงพิพากษายืนตาม