คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7679/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้เครื่องหมายการค้าคำว่า LACTA ของจำเลยที่ 1 มีตัวอักษรโรมันตรงกับตัวอักษรโรมัน 5 ตัวท้ายของเครื่องหมายการค้าคำว่า ALACTAของโจทก์ก็ตาม แต่การที่เครื่องหมายการค้ารายใดจะเหมือนกันหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าอีกรายหนึ่งจนถึงนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนหรือไม่นั้นจำต้องพิเคราะห์องค์ประกอบหลายอย่างเข้าด้วยกัน จะพิเคราะห์แต่ตัวอักษรหรือสำเนียงที่ออกเสียงแต่อย่างเดียวมาเป็นข้อวินิจฉัยหาได้ไม่ สินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าคำว่า ALACTA และ ALACTA-NF ของโจทก์เป็นนมผงสำหรับเลี้ยงทารก ปัจจุบันในประเทศไทยไม่มีสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าคำว่า ALACTAจำหน่าย คงมีจำหน่ายเฉพาะสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าคำว่า ALACTA-NFซึ่งประชาชนเรียกขานกันสั้น ๆ ว่า นมอะแล็คต้า โดยสินค้าดังกล่าวบรรจุอยู่ในภาชนะกระป๋องโลหะทรงกลมขนาดต่าง ๆ สินค้าของโจทก์ขนาดเล็กสุดจำหน่ายในราคากระป๋องละ 62.50 บาท ส่วนสินค้าของจำเลยที่ 1 ภายใต้เครื่องหมายการค้าคำว่า LACTA เป็นนมสดพร้อมดื่มบรรจุอยู่ในกล่องกระดาษสี่เหลี่ยมจำหน่ายในราคากล่องละ 5 ถึง 6 บาท นอกจากการวางรูปตัวอักษรของเครื่องหมายการค้าของโจทก์สำหรับสินค้าของโจทก์และเครื่องหมายการค้าคำว่า LACTAสำหรับสินค้าของจำเลยที่ 1 มีลักษณะไม่เหมือนกันแล้ว ยังปรากฏว่ามีรูปวัวอยู่ที่ด้านข้างทั้ง 4 ด้าน ของกล่องกระดาษบรรจุสินค้าของจำเลยที่ 1 ทั้งมีการระบุไว้โดยชัดแจ้งบนกล่องกระดาษนั้นด้วยว่าผลิตโดยจำเลยที่ 1 ในขณะที่กระป๋องโลหะทรงกลมบรรจุสินค้าของโจทก์มีชื่อโจทก์ปรากฏอยู่และมีข้อความระบุว่าผลิตจากประเทศนิวซีแลนด์ ดังนี้ เมื่อเครื่องหมายการค้าทั้งสองมีข้อแตกต่างกันโดยเครื่องหมายการค้าคำว่า LACTA ประกอบด้วยตัวอักษรโรมัน 5 ตัว และเป็นคำมี 2 พยางค์ โดยมีตัวอักษรตัวแรกเป็นตัว “L” ส่วนเครื่องหมายการค้าคำว่าALACTA ของโจทก์ประกอบด้วยอักษรโรมัน 6 ตัว และเป็นคำมี 3 พยางค์ โดยมีตัวอักษรตัวแรกเป็นตัว “A” สินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าทั้งสองนั้นเป็นสินค้าคนละชนิด บรรจุอยู่ในภาชนะที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งมีราคาแตกต่างกันมาก สาธารณชนย่อมไม่หลงผิดว่าสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าคำว่า LACTAเป็นสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าคำว่า ALACTA ของโจทก์ จึงถือไม่ได้ว่าเครื่องหมายการค้าคำว่า LACTA ที่จำเลยที่ 1 โอนให้จำเลยที่ 2 แล้ว เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าคำว่า ALACTA ของโจทก์จนถึงนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนให้สับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของหรือแหล่งกำเนิดของสินค้าโจทก์ที่ 1 จึงไม่มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า LACTA ดีกว่าจำเลยทั้งสองและไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า LACTA
คดีนี้จำเลยทั้งสองต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์โดยไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลอนาคต แต่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาโดยเสียค่าขึ้นศาลอนาคตมาด้วย จำเลยทั้งสองจึงเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาเกินมาต้องคืนแก่จำเลยทั้งสอง

Share