คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 765/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อุทิศที่ดินให้แก่ทางราชการใช้ทำเป็นถนนและทางสาธารณะ แม้จะยังไม่ได้แก้โฉนดและยังใช้เป็นถนนและทางสาธารณะไม่ถึง 10 ปีก็ตาม ที่ดินนั้นก็เป็นทางสาธารณะแล้ว จะกีดกันเอากลับมาเป็นของตนอีกไม่ได้
ปลูกสร้างรุกล้ำทางหลวง อำเภอมีคำสั่งห้ามแล้วยังขัดขืนไม่รื้อถอนออกไป โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน จำเลยย่อมต้องมีผิดตาม ก.ม.อาญา ม. 334 (2) ที่โจทก์ขอให้ลงโทษ

ย่อยาว

โ่จทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ ได้ยกกรรมสิทธิที่ดินตอนหนึ่งของโจทก์ให้แก่ทางราชการเพื่อสร้างถนนและทางสาธารณะคณะกรรมการอำเภอได้ตัดถนนในที่ดินที่จำเลยที่ ๑ ยกให้เสร็จเปิดใช้สัญจรแล้ว จำเลยทั้งสองสมคบกันบุกรุกจะเอาที่กลับคืนทำป้ายปักลงในถนนและทางสาธารณะระบุว่าเป็นที่ดินส่วนบุคคลกีดขวางการจราจร และจำเลยที่ ๒ ยอมให้ผู้อื่นเช่าปลูกร้านค้ารุกล้ำถนนหลวง กรมการอำเภอได้ออกคำสั่งห้ามหลายครั้งก็ยังขัดขืน จึงขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม. ๓๓๔(๒) และ พ.ร.บ. ปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗ ม.๓๒๒
จำเลยให้การต่อสู้ตัดฟ้องหลายประการ
ศาลล่างทั้งสองฟังต้องกันว่าจำเลยอุทิศที่ตอนพิพาทแล้วแม้โฉนดจะมีชื่อนางทิม ๆ เป็นแม่ยายจำเลยที่ ๑ เท่ากับยินยอมโดยปริยายแล้ว
ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๓๓๔ (๒) ปรับ ๑๒ บาท
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นผิด ก.ม.อยู่ก่อนแล้ว การห้ามเท่ากับห้ามไม่ให้จำเลยทำผิด ก.ม.เป็นการสั่งซ้ำการกระทำที่ถือว่าเป็นความผิดและบัญญัติโทษไว้แล้ว จะลงโทษฐานขัดคำสั่งอีกไม่ได้ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษ จำเลยฎีกาว่าไม่ใช่ทางสาธารณะ
ศาลฎีกาฟังว่าเป็นทางสาธารณะแม้จะอุทิศไม่ถึง ๑๐ ปี และยังไม่แก้โฉนดก็ไม่สำคัญ (อ้างฎีกาที่ ๕๘๓/๒๔๘๓) คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานเท่านั้น อำเภอมีหน้าที่ดูแลรักษาที่สาธารณะประโยชน์ เมื่อจำเลยกีดกันที่นั้นเป็นประโยชน์ตน และขัดคำสั่งอำเภอ จึงมีผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน พิพากษากลับให้บังคับลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share