คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7622/2538

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยมอบอำนาจให้ ล. ไปทำสัญญากับโจทก์ตามหนังสือมอบอำนาจระบุว่า จำเลยได้มอบอำนาจให้ ล.เป็นผู้มีอำนาจจัดการจำนองที่ดินกับโจทก์จำนวนเงิน70,000 บาท ตาม น.ส.3 เลขที่ 997 แม้หนังสือมอบอำนาจดังกล่าวจะไม่มีข้อความระบุไว้โดยแจ้งชัดว่า จำเลยมอบอำนาจให้ ล. ไปกู้ยืมเงินโจทก์ด้วยก็ตามแต่การที่จำเลยมอบอำนาจให้ ล. ไปจำนองที่ดินแก่โจทก์เป็นจำนวนเงิน 70,000 บาท ก็ย่อมมีความหมายเป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่า จำเลยมอบอำนาจให้ ล. ไปกู้ยืมเงินโจทก์โดยเอาที่ดินดังกล่าวจำนองไว้เป็นประกันการชำระหนี้เงินกู้นั่นเอง หนังสือมอบอำนาจจึงมีความหมายอยู่ในตัวว่ารวมถึงการมอบอำนาจให้ ล. กู้ยืมเงินโจทก์ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2526 จำเลยกู้ยืมเงินโจทก์จำนวน 70,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยปีละครั้ง ในการกู้ยืมเงินดังกล่าว จำเลยได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้นางลำพอง อุบลโพธิ์ จดทะเบียนจำนองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 997 ตำบลสีคิ้วอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เป็นประกันหนี้โดยให้ถือสัญญาจำนองเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินด้วย นับแต่กู้ยืมเงินไปแล้วจำเลยผิดสัญญาไม่เคยชำระดอกเบี้ยให้แก่โจทก์เลย โจทก์ได้มีหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้ทั้งหมดไปยังจำเลยแล้ว แต่จำเลยไม่ยอมรับหนังสือทวงถามดังกล่าว ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินต้นและดอกเบี้ยจำนวน 112,000 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีจากต้นเงิน 70,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จหากไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองของจำเลยออกขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยมอบอำนาจให้นางลำพอง อุบลโพธิ์กู้ยืมเงินโจทก์และนำ น.ส.3 ก. ตาฟ้องไปจำนองประกันหนี้เงินกู้แก่โจทก์แทนจำเลย โดยตกลงให้ถือเอาสัญญาจำนองเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงิน โจทก์และนางลำพองร่วมกันปลอมหนังสือมอบอำนาจแล้วนำไปจดทะเบียนจำนองที่ดินดังกล่าว สัญญาจำนองจึงเป็นโมฆะไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย การกู้ยืมเงินก็มิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 70,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จากเงินต้นดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2526 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้องจะต้องไม่เกิน 42,000 บาท หากไม่ชำระให้ยึดที่ดินตามน.ส.3 ก. เลขที่ 997 ตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมาออกขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า หนังสือมอบอำนาจตามเอกสารหมาย จ.14 จำเลยได้มอบอำนาจให้นางลำพองกู้ยืมเงินโจทก์ด้วยหรือไม่ ตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.14 ปรากฏข้อความว่า “จำเลยได้มอบอำนาจให้นางลำพอง อุบลโพธิ์ เป็นผู้มีอำนาจจัดการจำนองที่ดินกับโจทก์ จำนวนเงิน 70,000 บาท ตาม น.ส.3 เลขที่ 997 ตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว เล่มที่ 10 ข. หน้า 47″ เห็นว่า แม้หนังสือมอบอำนาจดังกล่าวจะไม่มีข้อความระบุไว้โดยชัดแจ้งว่าจำเลยมอบอำนาจให้นางลำพองไปกู้ยืมเงินโจทก์ด้วยก็ตาม แต่การแปลเจตนานั้นต้องเพ่งเล็งถึงเจตนาอันแท้จริงยิ่งกว่าถ้อยคำตามตัวอักษร การที่จำเลยมอบอำนาจให้นางลำพองไปจำนองที่ดินแก่โจทก์เป็นจำนวนเงิน 70,000 บาท ก็ย่อมมีความหมายเป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่า จำเลยมอบอำนาจให้นางลำพองไปกู้ยืมเงินโจทก์โดยเอาที่ดินดังกล่าวจำนองไว้เป็นประกันการชำระหนี้เงินกู้นั่นเอง หนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.14จึงมีความหมายอยู่ในตัวว่ารวมถึงการมอบอำนาจให้นางลำพองกู้ยืมเงินโจทก์ด้วย คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา”
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น

Share