คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ช่วยสมุหบัญชีแม้จะไม่มีหน้าที่โดยตรงที่จะรับเงินผลประโยชน์ที่มีผู้ส่งมาก็ดี แต่เมื่อรับเงินในระหว่างที่รักษาการในตกแหน่งสมุหบัญชี หรือระหว่างปฏิบัติการรับเงินแทนสมุหบัญชี เช่นนี้ย่อมถือได้ว่ารับเงินไว้โดยหน้าที่
การที่ผู้ช่วยสมุหบัญชีลงชื่อรับเงินในฐานะสมุหบัญชีแล้วเสนอนายตำรวจลงชื่อในฐานะแทนผู้กำกับการเช่นนี้ย่อมเป็นการรับเงินในทางราชการนั่นเอง หาใช่ส่วนตัวไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจตำแหน่งผู้ช่วยสมุหบัญชีประจำกองกำกับการ มีหน้าที่รับและรักษาเงินผลประโยชน์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่นำส่ง ปรากฏว่าจำเลยได้รับเงินไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัว ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย ๑๒ ปี ตามก.ม.อาญา ม.๑๓๑ ที่แก้ไขเพิ่มเติม
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่ารับเงินไว้เป็นส่วนตัว จำเลยไม่มีหน้าที่รับเงินผลประโยชน์ขอแผ่นดินซึ่งเป็นที่สมุหบัญชีจึงควรมีผิดฐานยักยอกธรรมดา
ศาลฎีกาเห็นว่าแม้จำเลยจะเป็นผุ้ช่วยสมุหบัญชีไม่มีหน้าที่โดยตรงที่จะรับเงินผลประโยชน์ที่มีผู้นำมาส่งให้ก็ดี แต่ปรากฏตามใบนำส่งเงิน ๑๖ ฉบับที่กล่าวหากันในคดีนี้ จำเลยได้รับเงินไว้ในระหว่างที่จำเลยรักษาการในตำแหน่งสมุหบัญชีเองบ้าง ในระหว่างที่จำเลยปฏิบัติการรับเงินแทน ร.ต.ต.สัมพันธ์ บ้าง จึงเรียกได้ว่าจำเลยได้รับเงินนั้นไว้โดยหน้าที่และที่จำเลยลงนามรับเงินก็เซ็นรับในฐานะสมุหบัญชี ทั้งยังได้นำไปให้ตำรวจเซ็นในฐานะแทนผู้กำกับการด้วย ซึ่งเห็นได้ว่าจำเลยทำการรับเงินในทางราชการมิใช่ส่วนตัวดังที่จำเลยเถียง.
จึงพิพากษายืน.

Share