คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กำนันติดตามจับคนร้ายฐานฉุดคร่าห์อนาจารในทันทีและได้ติดตามต่อไปจนพ้นห้องที่ของตนจึงทันคนรายๆได้ต่อสู้ขัดขวางเอา ดังนี้ย่อมเห็นได้ว่า กำนันนั้นได้ปฏิบัติราชการตามหน้าที่ จึงเป็นเจ้าพนักงานโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้ร้ายผู้ต่อสู้ขัดขวางจึงย่อมมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 119, 120

ย่อยาว

คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ – ๒ มีความผิดฐานฉุดคร่าห์อนาจาร กับฐานทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพ และจำเลยที่ ๑ มีความผิดต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานอีกกะทงหนึ่ง จำเลยที่ ๓ ผิดฐานต่อสู้ผู้ขัดขวางเจ้าพนักงานกะทงเดียว จำเลยที่ ๔ ผิดฐานสมรู้ในการข่มขืนกระทำชำเรา ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ – ๒ – ๓ ฎีกาในปัญหาข้อเดียวว่า กำนันตำบลบ่อเงิน ติดตามไปจับจำเลยถึงตำบลสิงหนาท นอกห้องที่ของตน ดังนี้ ไม่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า นายหวลกำนันไต่ติดตามจับจำเลยในทันที และได้ติดตามติดต่อไปจนพ้นห้องที่ของตนจึงทันและมีการตอสู้ขัดขวางกับขึ้น ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่า นายหวลได้ปฏิบัติราชการตามหน้าที่ จึงเป็นเจ้าพนักงานโดยชอบด้วยกฏหมาย และตาม พ.ร.บ.ปกครองห้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗ มาตรา ๓๗ ก็ยังให้อำนาจกำนันที่จะช่วยเหลือตำบลข้างเคียงในกรณีมีเหตุร้ายสำคัญได้อยู่ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น

Share