คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 โจทก์ไม่จำต้องบรรยายฟ้องว่าได้มีการปิดประกาศพระราชกฤษฎีกาดังกำหนดไว้ใน มาตรา 5 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 แต่ประการใด(ฎีกาที่ 1146/2502)
จำเลยมีไม้สักแปรรูปจำนวน 0.53 เมตร ลูกบาศก์ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นับว่าเป็นการกระทำผิดต่อ พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48,73 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 มาตรา 17 ไม้ที่จำเลยมีทั้งหมดย่อมมีส่วนก่อให้เกิดความผิด จึงต้องถูกริบทั้งจำนวน

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแปรรูปไม้ ตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้แรงคน และทำการแปรรูปไม้เพื่อการค้า มีไม้สักแปรรูปเกินจำนวน0.20 เมตรลูกบาศก์ ไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ขอให้ลงโทษ

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีไม้สักแปรรูปเป็นจำนวนเกินกว่า 0.20 เมตรลูกบาศก์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 100 บาทและริบไม้ของกลาง

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ในปัญหาที่ว่าการที่โจทก์มิได้บรรยายมาในคำฟ้องว่าได้มีการปฏิบัติตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 นั้น ศาลฎีกาได้วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่า ข้อกำหนดแห่งมาตรา 5 เป็นเพียงกำหนดวิธีการให้พนักงานเจ้าหน้าที่กระทำในการประกาศให้ทราบถึงพระราชกฤษฎีกาเท่านั้น ไม่ใช่บทบังคับอันเป็นองค์ประกอบความผิด โจทก์จึงไม่ต้องระบุในฟ้องว่าได้มีการปิดประกาศพระราชกฤษฎีกาดังกำหนดไว้ในมาตรา 5 แล้วแต่ประการใดฟ้องของโจกท์สมบูรณ์แล้ว ที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องเพราะขาดองค์ประกอบความผิดนั้นไม่ชอบ

เรื่องนี้จำเลยมีไม้สักแปรรูป จำนวน 0.53 เมตรลูกบาศก์ไว้โดยมิได้รับอนุญาตนับว่าเป็นการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48, 73 และพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2494 มาตรา 17 ไม้ที่จำเลยมีไว้ทั้งหมดย่อมมีส่วนก่อให้เกิดความผิด จึงต้องถูกริบทั้งจำนวน

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามศาลชั้นต้น

Share