แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ใบหูเป็นส่วนหนึ่งของใบหน้าที่ประกอบรูปหน้าให้งาม การที่ใบหูหลุดขาดแหว่ง ไปถึงหนึ่งในสาม ย่อมทำให้รูปหน้าเสียความงามอันเป็นการเสียโฉมอย่างติดตัว เป็นอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗ แล้ว
ความผิดในข้อหาที่โจทก์ฟ้อง กฎหมายมิได้กำหนดอัตราโทษอย่างต่ำไว้ให้จำคุกตั้งแต่ ๕ ปีขึ้นไป หรือโทษสถานที่หนักกว่านั้นเมื่อจำเลยรับสารภาพศาลก็มีอำนาจรับฟังข้อเท็จจริงตามฟ้องแล้วพิพากษาคดีได้โดยไม่ต้องสืบพยาน.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ปากกัดหูของผู้เสียหายจนหลุดขาดแหว่งและจำเลยดูหมิ่นผู้เสียหายซึ่งหน้า ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙๗, ๓๙๓, ๙๑
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙๗ จำคุก ๓ ปี ผิดมาตรา ๓๙๓ จำคุก ๑ เดือน รวมจำคุก ๓ ปี๑ เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ๑๕ วัน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยได้ใช้ปากกัดหูซ้ายของผู้เสียหายจนหลุดขาดแหว่งจากส่วนบนของใบหูไปจดติ่งหูประมาณหนึ่งในสามของใบหูทั้งหมด ใบหูนั้นเป็นส่วนหนึ่งของใบหน้าที่ประกอบรูปหน้าให้งามเมื่อใบหูขาดไปถึงหนึ่งในสาม ย่อมทำให้รูปหน้าเสียความงามอันเป็นการเสียโฉมอย่างติดตัว แม้ผู้เสียหายจะรักษาตัวไม่เกิน ๑๔วัน ผู้เสียหายก็ได้รับอันตรายสาหัสแล้ว
ความผิดในข้อหาที่โจทก์ฟ้องกฎหมายมิได้กำหนดอัตราโทษอย่างต่ำให้จำคุกตั้งแต่ ๕ ปีขึ้นไป หรือโทษสถานที่หนักกว่านั้นเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลมีอำนาจรับฟังข้อเท็จจริงตามฟ้อง แล้วพิพากษาโดยไม่สืบพยานได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๗๖ วรรคแรก โจทก์จึงไม่ต้องนำแพทย์มาสืบหรือนำผู้เสียหายมาให้ศาลดูอีกด้วยฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.