แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายชักมีดออกจากเอวจะแทงจำเลย ๆ จับข้อมือผู้ตายไว้ แล้วใช้มีดแทงผู้ตาย ควรฟังว่าจำเลยกระทำโดยป้องกันตัว แต่จำเลยแทงผู้ตายซ้อน ๆ กันหลายทีโดยผู้ตายไม่มีโอกาศจะทำร้ายจำเลย จึงเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยฆ่านายกลั่นตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙
จำเลยให้การภาคเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๔๙,๕๕ จำคุก ๗ ปี ๖ เดือน ลดฐานรับสารภาพ อีก ๒ ปี ๖ เดือนคงเหลือ ๕ ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่ผู้ตายชักมีดออกจากเอวจะแทงจำเลย ๆ จับข้อมือผู้ตายไว้แล้วใช้มีดแทงผู้ตาย ควรฟังว่าจำเลยกระทำโดยป้องกันตัว แต่จำเลยแทงผู้ตายซ้อน ๆ กันหลายที โดยผู้ตายไม่มีโอกาศจะทำร้ายจำเลย จึงเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ และแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าให้ถึงตาย
พิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ให้จำคุกจำเลย ๕ ปีตามมาตรา ๒๔๙,๕๓