คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 749/2475

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปลอมหนังสือสัญญากู้เงินแล้วนำมาฟ้องศาล และจำเลยเข้าเป็นพะยานเบิกความต่อศาลอีก มีความผิด 3 กะทง
วิธีพิจารณาอาชญา กระทำต่างกรรมต่างวาระ หน้าที่นำสืบ เมื่อปรากฎว่าสัญญาที่กดลายพิมพ์นิ้วมือให้ จำเลยไว้เป็นคนละฉะบับกับที่จำเลยทำ จำเลยต้องนำสืบพิศูจน์ว่าสัญญาที่จำเลยนำมาฟ้องว่าเป็นสัญญาอันแท้จริง

ย่อยาว

คดีนี้ได้ความว่าจำเลยสมคบกันทำหนังสือสัญญากู้ปลอมขึ้นฉะบับหนึ่งว่า ก.ส.ได้กู้เงินของนางริ้วจำเลยไป ๘๐๐ บาท เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๐ แล้ว จำเลยได้นำหนังสือปลอมนั้นมาฟ้อง เรียกเงินจาก ก.ส. เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๓ จำเลยทั้ง ๒ ได้ มาเบิกความเป็นพะยานเด็จต่อศาลและล้างหนังสือปลอมนั้นเป็นพะยาน ซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เป็นความจริง
ศาลฎีกาตัดสินว่าให้ลงโทษจำคุกจำเลยรวม ๓ กะทง คือ ฐานปลอมหนังสือปลอมนั้นเป็นพะยาน ซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เป็นความจริง
ศาลฎีกาตัดสินให้ลงโทษจำคุกจำเลยรวม ๓ กะทง คือฐานปลอมหนังสือ ตาม ม. ๒๒๒ – ๒๒๔ กะทงหนึ่ง ฐานกระทำพะยานเท็จตาม ม. ๑๕+ กะทงหนึ่ง แลเบิกความเท็จตาม ม. ๑๕๕ อีกกะทง หนึ่ง

Share