แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การควบคุมตัวผู้ต้องหาในคดีการพนันโดยใส่กุญแจมือล่ามโซ่เพื่อให้ผู้ต้องหาอับอายนั้นเป็นการมิชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 86 และย่อมเป็นผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 145
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นนายอำเภอจำเลยที่ 2 เป็นตำรวจจำเลยทั้งสองควบคุมโจทก์ในข้อหาเล่นการพนันจากอำเภอแจ้ห่มเพื่อส่งอัยการที่จังหวัดลำปาง จำเลยแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหายอับอายโดยมิบังควร โดยจำเลยที่ 1 สั่งให้จำเลยที่ 2 ใส่เครื่องพันธนาการคือกุญแจมือและใช้โซ่ร้อยกุญแจมือนั้น ควบคุมโจทก์ในลักษณะเช่นนี้ตลอดทางขอให้ลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 145, 63, 64
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งประทับฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1
จำเลยปฏิเสธข้อหา
ศาลชั้นต้นเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมายจะทำได้ และวิธีควบคุมโจทก์เช่นนี้เกินกว่าจำเป็น พิพากษาว่าจำเลยผิดกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 145 ให้จำคุก 2 เดือน ปรับ 500 บาท แต่ให้รอโทษจำคุกไว้
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลย 1 ปี โดยไม่รอการลงโทษ
จำเลยฎีกาโดยอธิบดีกรมอัยการรับรอง
ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์เป็นหญิงมีหลักฐานและความผิดที่ต้องหาเพียงลักเล่นการพนัน ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง การที่จำเลยใส่กุญแจมือโจทก์ล่ามโซ่เดินไปตามถนนในตลาดเป็นเรื่องที่ไม่สมควร ข้อแก้ตัวจำเลยว่าจะมีคนแย่งโจทก์ฟังไม่ขึ้น จำเลยก็รับรองว่าไม่เคยคิดเกรงว่าโจทก์จะหลบหนี แม้ปล่อยตัวไปโดยไม่ต้องมีประกันเลยก็ยังเคย โจทก์ก็มาตามนัดทุกครั้ง ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยกระทำนั้นเจตนาเพื่อให้โจทก์อับอาย จึงเป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 145 แต่เห็นว่าจำเลยมิได้มีเจตนาแกล้งเป็นส่วนตัวหากเป็นเรื่องที่มุ่งจะปราบสลากกินรวบ จึงพิพากษาแก้เฉพาะข้อกำหนดโทษ โดยให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น