คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หนี้ที่สามีต้องใช้เป็นส่วนตัวนั้น เมื่อยังมิได้แยกสินบริคณห์ออกจากกัน ต้องถือว่าสามีมีส่วนเป็นเจ้าของด้วย ฉะนั้นเจ้าหนี้จึงยึดเพื่อเอาส่วนของสามีชำระหนี้ได้

ย่อยาว

กรณีเนื่องจากนายมา จำเลย สามีผู้ร้องเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอาญา นายลี่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาขอบังคับคดีและนำยึดทรัพย์นาพิพาท ๒ แปลง กับเรือน ๑ หลัง ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องขอให้ถอนการยึดทรัพย์ดังกล่าวอ้างว่าไม่ใช่ของจำเลย แต่เป็นสินเดิมของผู้ร้อง ๆ ไม่มีส่วนรู้เห็น ทั้งมิได้มีส่วนได้รับหรือนำมาอุปการะเลี้ยงดูครอบครัว ผู้ร้องจึงไม่ต้องรับผิด ขอให้ถอนการยึด
นายลี่ให้การว่า ทรัพย์พิพาทเป็นสินส่วนตัวจำเลยได้มาทางมรดก ต้องรับผิด
ศาลชั้นต้นฟังว่าเป็นสินบริคณห์ หนี้ตามคำพิพากษาเกิดจากการค้าขายเลี้ยงครอบครัว จึงเป็นหนี้ที่ผูกพันสินบริคณห์ โจทก์ชอบจะยึดได้ สั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ยืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่นาพิพาทผู้ร้องกับสามีได้รับมรดกของนายเฮือนบิดาผู้ร้อง ส่วนเรือนพิพาทก็เพิ่งปลูก ทรัพยพิพาทจึงเป็นสินสมรส ซึ่งจำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของด้วย เมื่อปรากฎว่ายังมิได้แยกสินบริคณห์ออกจากกัน เจ้าหนี้จำเลยก็ชอบที่จะยึดเพื่อเอาส่วนของลูกหนี้ชำระหนี้ได้ พิพากษายืน

Share