คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยลักกระบือไป เจ้าทรัพย์ไปพูดขอคืน จำเลย+ต้องเรียกค่าไถ่จึงจะเอากระบือมาคืนให้ โดยจำเลยตั้งใจหลอกลวงเจ้าทรัพย์หลงเชื่อจึงให้เงินไป จำเลยรับเงินไปแล้วก็หาคืนกระบือให้ไม่ แลไม่ปรากฎว่ากระบือจะอยู่ที่จำเลยหรือไม่ดังนี้ ต้องมีผิดฐานฉ้อโกง

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยลักกระบือของเจ้าทรัพย์ไป ๑ ตัว พวกเจ้าทรัพย์พากันติดตามไปพบจำเลย แลพูดขอกระบือคืน จำเลยว่าต้องเรียกค่าไถ่ ๑๐ บาท รุ่งขึ้นจำเลยพาพวกเจ้าทรัพย์ไปว่าจะนำไปเอากระบือ ระหว่างทางจำเลยพูดขอเงิน ๑๐ บาทก่อน พวกเจ้าทรัพย์หลงเชื่อจึงมอบเงินให้ไป แล้วจำเลยบอกให้พวกเจ้าทรัพย์คอยอยู่ แล้วจำเลยก็พากันหายไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์แลฉ้อโกงรวม ๒ กะทง
ศาลอุทธรณวินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีผิดฐานฉ้อโกง โดยวินิจฉัยว่าการที่จำเลยเรียกเอาเงินโดยว่าจะคืนกระบือให้นั้นอาจไม่ใช่ความเท็จ ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ใช้อุบายหลอกลวงให้หลงเชื่อ จึงให้ยกข้อหาในความผิดฐานฉ้อโกง
์ศาลฎีกาเห็นว่าเรื่องนี้คดีพอฟังได้ว่าจำเลยได้กล่าวเท็จหลอกลวงให้ผู้เสียหายส่งเงินให้ โดยจำเลยตั้งใจจะไม่คืนกระบือเพราะไม่ปรากฎว่ากระบือยังอยู่ที่จำเลยเพราะแม้จำเลยจะลักมาจริงก็อาจจะไม่ได้อยู่ในครอบครองของจำเลยก็ได้ จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

Share