คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 74/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

นายตรวจฝิ่นสมคบกับบุคคลอื่นมีฝิ่นเถื่อนไว้จำหน่ายไม่มีความผิดฐานช่วยให้พ้นอาญาตาม ม.142
นายร้อยตำรวจเป็นผู้จับผู้ต้องหานั้น ทำการสอบสวนผู้ต้องหานั้นเองได้

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยทั้ง ๓ สมคบกันมีฝิ่นเถื่อนไว้จำหน่ายเป็นจำนวน ๒๔๘ ตำลึงและจำเลยที่ ๒ รับราชการเป็นนายตรวจฝิ่นประจำแผนกสรรพสามิตต์มีหน้าที่สืบสวนจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ฝิ่นด้วย
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยทั้ง ๓ คน ตาม พ.ร.บ.ฝิ่น กำหนดคนละ ๒ ปีปรับ ๑๕,๕๕๒ บาท และจำเลยที่ ๒ มีผิดตามกฎหมายอาญา ม.๑๔๒ อีกกะทงหนึ่งให้จำคุกอีก ๒ ปี
ศาลฎีกาตัดสินตามศาลอุทธรณ์ว่า แม้จำเลยที่ ๒ จะมีหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ฝิ่นก็ดี ก็จะปรับเอาผิดตาม ม.๑๔๒ ฐานใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจจริตไม่ได้เพราะจำเลยที่ ๒ เป็นตัวการสมคบกับพวกมีฝิ่นเถื่อนเพื่อจำหน่ายเสียเองแล้ว ก็มิได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยเหลือจำเลยคนอื่นกระทำผิดหรือช่วยเหลือให้พ้นอาญาได้ ม.๑๔๒ เป็นเรื่องเจ้าพนักงานช่วยเหลือผู้กระทำผิดมิให้ต้องรับอาญา หาใช่เอาผิดแก่เจ้าพนักงานผู้กระทำผิดเสียเองไม่ ส่วนข้อฎีกาของจำเลยที่ว่าการสอบสวนเป็นโมฆะ เพราะผู้จับกุมเป็นผู้สอบสวนเองนั้น เห็นว่าไม่มีบทกำหมายที่ห้ามมิให้เจ้าพนักงานผู้จับกุมเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนอีกด้วย หากผู้สอบสวนนั้นมีอำนาจสอบสวนได้ตามกฎหมายแล้ว ตรงกันข้ามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.๑๓๖ ยังสนับสนุนด้วย จึงพิพากษาให้ลงโทษจำเลยทั้ง ๓ ตาม พ.ร.บ.ฝิ่นตามศาลชั้นต้นกระทงเดียว ฎีกาของโจทก์จำเลยให้ยก

Share