คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมีอาวุธปืนติดตัวขู่จะยิงผู้เสียหายซึ่งหนีจำเลยไปอยู่บนบ้าน แต่พอจำเลยจะขึ้นบันไดเรือนผู้เสียหายซึ่งอยู่ติดทางเดินก็มีคนเข้ากอดจำเลยไว้ก่อน จึงขึ้นไปไม่ได้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาบุกรุกเข้าไปในบ้านผู้เสียหาย แต่จำเลยกระทำไปไม่ตลอด การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามบุกรุกโดยมีอาวุธติดตัว อาวุธปืนนั้นเป็นทรัพย์ที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิด ศาลมีอำนาจสั่งริบได้

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืนติดตัวบุกรุกขึ้นไปบนบ้านของนายเทียน แก้วเลิศ ผู้เสียหาย แล้วได้ใช้ปืนดังกล่าวขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะยิงผู้เสียหาย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายเกิดความตกใจกลัว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๔, ๓๖๕, ๓๙๒และขอให้ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๓๖๕ ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จำคุก ๓ เดือน ปรับ ๕๐๐ บาทโทษจำรอ ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา ๓๙๒ บทเดียวของกลางริบแต่มีความเห็นแย้งว่า ไม่ควรริบของกลาง
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามฟ้อง แม้จะฟังว่าไม่ถึงขั้นความผิดสำเร็จก็เป็นพยายามบุกรุก ศาลมีอำนาจลงโทษฐานพยายามบุกรุกได้ ส่วนจำเลยฎีกาขอให้คืนอาวุธปืนให้จำเลยด้วย
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ก่อนเกิดเหตุ จำเลยได้ขู่จะยิงผู้เสียหายในวงสุรา ผู้เสียหายกลับบ้าน จำเลยเดินผ่านบ้านผู้เสียหายแล้วพูดขู่อีก แล้วเลยไปเอาปืนที่บ้านของตนถือมาขู่จะยิงผู้เสียหาย ผู้เสียหายหนีเข้าบ้าน จำเลยตามไปถึงบันไดบ้านผู้เสียหาย จะขึ้นไปบนบ้าน แต่มีคนมากอดจำเลยไว้ จำเลยจะขึ้นไปให้ได้ จึงถูกดึงลงมาแล้วพาไปส่งบ้าน บันไดหน้าบ้านผู้เสียหายติดทางซึ่งใคร ๆ ก็เดินได้
ข้อเท็จจริงได้ความดังกล่าว ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยยังไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปในบ้านของผู้เสียหาย คงอยู่ที่ทางสาธารณะติดบันไดบ้านผู้เสียหาย แต่การที่จำเลยมีอาวุธติดตัวจะขึ้นบันไดบ้านผู้เสียหายเพื่อติดตามผู้เสียหายซึ่งหนีขึ้นไปอยู่บนบ้าน แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะบุกรุกเข้าไปในบ้านผู้เสียหาย แต่จำเลยกระทำไปไม่ตลอด เพราะมีคนมาดึงจำเลยไว้ จำเลยจึงบุกรุกเข้าไปไม่ได้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามบุกรุกโดยมีอาวุธปืนติดตัว อาวุธปืนจึงเป็นทรัพย์สินที่จำเลยใช้ในการทำผิด ศาลมีอำนาจสั่งริบได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าจำเลยมีอาวุธปืนเพื่อใช้ในการทำความผิดฐานทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๖๕, ๘๐ อีกกระทงหนึ่ง โดยให้ลงโทษตามมาตรา ๓๖๕, ๘๐ อันเป็นกระทงที่หนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ให้จำคุก ๒ เดือนปรับ ๕๐๐ บาท โทษจำคุกให้ยกเสีย ตามมาตรา ๕๕ แห่งประมวลกฎหมายอาญาบังคับค่าปรับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ รวมทั้งในข้อริบอาวุธปืนของกลางด้วย

Share