คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 736/2507

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่คู่ความตกลงท้ากันต่อหน้าศาล ขอให้ถือเอาผลคำพิพากษาในคดีอาญาแต่เพียงว่าโจทก์ถูกกระสุนปืนของจำเลยหรือไม่ เป็นข้อแพ้ชนะกันนั้น หาขัดต่อกฎหมายไม่ ฉะนั้นเมื่อศาลฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ถูกกระสุนปืนที่จำเลยยิง จำเลยก็ต้องแพ้คดีตามคำท้านั้น ส่วนคำพิพากษาคดีอาญาที่ฟังต่อไปว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุไม่มีความผิดนั้น เป็นการนอกเหนือคำท้า จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยถึง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยถือปืนพกหันปากกระบอกมาทางโจทก์ และเห็นแสงไฟแลบที่ปากกระบอกปืนซึ่งจำเลยถืออยู่กับมีเสียงดังปังกระสุนปืนถูกโจทก์ที่ไหปลาร้า ขอให้จำเลยใช้ค่ารักษาพยาบาลและค่าสินไหมทดแทน 15,000 บาท

จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ

ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องว่า จำเลยขาดนัดโดยไม่จงใจ ศาลนัดไต่สวน

ในวันนัดไต่สวน โจทก์จำเลยตกลงกันในข้อหนึ่งว่า จำเลยจะต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์หรือไม่ ขอให้ถือเอาคำพิพากษาในคดีอาญาดำที่ 42/2506 ของศาลทหารกรุงเทพฯ (ศาลจังหวัดสระบุรี) ซึ่งอัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลย โดยถือเอาผลของคำพิพากษาแต่เพียงว่านายโพธิ์ถูกกระสุนปืนของจำเลยหรือไม่ ศาลชั้นต้นจึงสั่งงดการไต่สวนให้รอฟังผลของคำพิพากษาคดีที่คู่ความอ้าง

ต่อมาศาลทหารกรุงเทพฯ ได้พิพากษาคดีอาญาดังกล่าว โดยฟังข้อเท็จจริงว่านายตี่จำเลยได้ใช้อาวุธปืนยิงนายโพธิ์จริง โดยก่อนยิง นายโพธิ์ได้วิ่งเข้าชิดตัวจำเลย จำเลยร้องว่าถูกแทง การที่จำเลยยิง เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิดพิพากษายกฟ้อง

ศาลชั้นต้นจึงวินิจฉัยคดีนี้ว่า ผลแห่งการกระทำของจำเลยชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่เป็นละเมิด หากก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ก็ไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อโดยผลแห่งกฎหมายจำเลยไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว ข้อตกลงที่จำเลยต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์จึงขัดต่อกฎหมาย ตกเป็นโมฆะพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์10,000 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ย

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อโจทก์จำเลยตกลงกันขอให้ถือเอาผลของคำพิพากษาในคดีอาญาแต่เพียงว่าโจทก์ถูกกระสุนปืนของจำเลยหรือไม่เป็นข้อท้าแพ้ชนะในคดีนี้แล้ว ประเด็นที่ศาลจะยกขึ้นวินิจฉัยในคดีนี้ก็มีแต่เพียงว่า ในคดีอาญานั้นศาลฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ถูกกระสุนปืนที่จำเลยยิงหรือไม่ถ้าฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ถูกกระสุนปืนที่จำเลยยิง จำเลยก็แพ้คดี ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ตามคำท้า ส่วนคำพิพากษาในคดีอาญาฟังต่อไปว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด เป็นการนอกเหนือคำท้า จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยถึงว่า เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวแล้ว จำเลยจะต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าคำท้าระหว่างโจทก์จำเลยดังกล่าว ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 449 จึงไม่ตกเป็นโมฆะดังจำเลยฎีกา คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share