แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยโอนสิทธิเรียกร้องในเงินค่าจ้างซึ่งจำเลยจะได้รับจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้แก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ท. จำกัด เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2540 ต่อมาวันที่ 29 เมษายน 2542 บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ท. จำกัด โอนสินทรัพย์และหนี้สินรวมทั้งสิทธิเรียกร้องดังกล่าวให้แก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ก. จำกัด (มหาชน) และวันเดียวกันบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ก. จำกัด (มหาชน) โอนสินทรัพย์และหนี้สินรวมทั้งสิทธิเรียกร้องดังกล่าวให้แก่ผู้ร้อง โดยการโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงไม่มีสิทธิเรียกร้องในเงินค่าจ้างดังกล่าวนับแต่วันที่ 24 เมษายน 2540 และผู้ร้องมีสิทธิเรียกร้องในเงินค่าจ้างดังกล่าวนับแต่วันที่ 29 เมษายน 2542 การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดสิทธิเรียกร้องนั้นเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2542 อันเป็นเวลาภายหลังจากที่ผู้ร้องได้ไปซึ่งสิทธิเรียกร้องนั้น และจำเลยไม่มีสิทธิเรียกร้องดังกล่าวแล้ว การอายัดดังกล่าวจึงเป็นการบังคับคดีที่ฝ่าฝืนต่อ ป.วิ.พ. มาตรา 310 ทวิ ประกอบมาตรา 311 โจทก์ไม่มีสิทธิขอให้ศาลชั้นต้นอายัดเงินตามสิทธิเรียกร้องนั้นได้ ผู้ร้องมิใช่บุคคลภายนอกที่เป็นลูกหนี้แห่งสิทธิเรียกร้องจึงไม่จำต้องคัดค้านคำสั่งอายัดก่อนการกีฬาแห่งประเทศไทยส่งเงินไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 312 วรรคสอง บทบัญญัติดังกล่าวจึงมิได้ใช้บังคับแก่ผู้ร้อง
การอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่ได้รับชำระหนี้ ผู้ร้องย่อมเป็นผู้มีส่วนได้เสีย มีสิทธิร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งอายัดได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 280 ประกอบมาตรา 296 วรรคหนึ่ง
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน ๑,๑๙๕,๔๘๘.๓๘ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๔๐ จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่จำเลยไม่ชำระ โจทก์ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยในเงินค่าก่อสร้างไปยังการกีฬาแห่งประเทศไทยและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ท. ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดสิทธิเรียกร้องไปยังการกีฬาแห่งประเทศไทยและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ท. ตามจำนวนเงินที่โจทก์ได้รับตามคำพิพากษาแล้ว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการอายัดสิทธิเรียกร้อง
โจทก์ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ถอนการอายัดเงินจำนวน ๑,๕๒๒,๓๒๑ บาท ของเจ้าพนักงานบังคับคดี ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาว่า ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการอายัดเงินจำนวน ๑,๕๒๒,๓๒๑ บาท ของเจ้าพนักงานบังคับคดีตามที่โจทก์ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดได้หรือไม่
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า คดีนี้ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามคำสั่งศาลชั้นต้นว่า จำเลยโอนสิทธิเรียกร้องในเงินค่าจ้างจำนวน ๒๘๔,๑๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งจำเลยจะได้รับจากการกีฬาแห่งประเทศไทยให้แก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ท. เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๔๐ ต่อมาวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๔๒ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ท. ได้โอนสินทรัพย์และหนี้สิน รวมทั้งสิทธิเรียกร้องดังกล่าวให้แก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ก. และในวันเดียวกันนั้น บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ก. ได้โอนสินทรัพย์และหนี้สิน รวมทั้งสิทธิเรียกร้องดังกล่าวให้แก่ผู้ร้อง การโอนสิทธิเรียกร้องชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๐๖ และพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. ๒๕๐๕ มาตรา ๓๘ ตรี ดังนั้น จำเลยจึงไม่มีสิทธิเรียกร้องในเงินค่าจ้างดังกล่าวนับแต่วันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๔๐ และผู้ร้องมีสิทธิเรียกร้องในเงินค่าจ้างดังกล่าวนับแต่วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๔๒ การที่โจทก์ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องดังกล่าวโดยอ้างว่าเป็นสิทธิเรียกร้องของจำเลย และศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดสิทธิเรียกร้องนั้นเมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๔๒ อันเป็นเวลาภายหลังจากที่ผู้ร้องได้ไปซึ่งสิทธิเรียกร้องนั้น และจำเลยไม่มีสิทธิเรียกร้องดังกล่าวแล้ว การอายัดดังกล่าวจึงเป็นการบังคับคดีที่ฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๑๐ ทวิ ประกอบมาตรา ๓๑๑ โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิขอให้ศาลชั้นต้นสั่งอายัดเงินตามสิทธิเรียกร้องนั้นได้ ส่วนที่โจทก์อ้างว่า ผู้ร้องมิได้คัดค้านคำสั่งอายัดก่อนการกีฬาแห่งประเทศไทยส่งเงินไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดี จึงไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอนคำสั่งอายัด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๑๒ วรรคสอง นั้น ผู้ร้องมิใช่บุคคลภายนอกที่เป็นลูกหนี้แห่งสิทธิเรียกร้อง บทบัญญัติดังกล่าวจึงมิได้ใช้บังคับแก่ผู้ร้อง และที่โจทก์อ้างว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิเรียกร้องขอให้เพิกถอนการอายัดเพราะมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียนั้น การอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่ได้รับชำระหนี้ ผู้ร้องย่อมเป็นผู้มีส่วนได้เสียซึ่งมีสิทธิร้องขอให้เพิกถอนการอายัดนั้นได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๐ ประกอบมาตรา ๒๙๖ วรรคหนึ่ง ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนการอายัดนั้น ชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ.