คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีฝิ่นไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต แต่ตามทางพิจารณาที่โจทก์นำสืบไม่ได้ความว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับฝิ่นของกลางอย่างไร แม้กรณีจะเป็นประการใดก็ตาม คดีที่มีโทษอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปเช่นนี้คดีนี้ ศาลจะลงโทษจำเลยเพียงแต่ฟังคำรับสารภาพต่อเจ้าพนักงานหรือชั้นสอบสวนหรือจะหยิบยกคำรับสารภาพของจำเลยต่อศาลในชั้นแรกโดยไม่มีพยานโดยตรงหรือพฤติการณ์อื่นประกอบด้วยแล้วจึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและเพิ่มเติมฟ้องว่าจำเลยบังอาจมีฝิ่นดิบหนัก ๑๙ ก.ก. ๒๐๐ กรัม ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษ
จำเลยปฏิเสธ ศาลอาญาเห็นว่าโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นที่แสดงโดยตรงหรือโดยปริยายว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องกับฝิ่นของกลางรายนี้ แม้จำเลยจะรับต่อศาล ก็ยังอาศัยคำรับของจำเลยอย่างเดียวมาลงโทษจำเลยหาได้ไม่ พิพากษายกฟ้อง ฝิ่นของกลางริบ
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวน และเมื่อถูกฟ้องตอนแรกจำเลยก็รับสารภาพและรับต่อนายร้อยตำรวจเอก กัปตันเรือ ต้นกลเรือ++เดียวกัน และยังนำเจ้าพนักงานชี้ที่ซ่อนฝิ่นของกลางอีกด้วย แม้จะปฏิเสธในชั้นหลังก็พอฟังลงโทษจำเลยได้พิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ฝิ่น พ.ศ.๒๔๗๒ ม.๕๓ แก้ไข ม.๖ ให้ลงโทษจำคุกมีกำหนด ๙ เดือน ปรับ ๘๖๔,๐๐๐ บาท ปราณีลดตาม ม.๕๙ ให้ ๑ ใน ๓ คงลงโทษจำคุก ๖ เดือน ปรับ ๕๗๖,๐๐๐ บาท ฝิ่นของกลางริบ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าทางพิจารณาตามที่โจทก์นำสืบไม่ได้ความว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับฝิ่นของกลางอย่างไร กรณีประเด็นจะเป็นประการใดก็ตาม คดีที่มีอัตราโทษอย่างสูงตั้งแต่ ๑๐ ปีขึ้นไป ศางต้องพิจารณาฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจจำเลยได้กระทำผิดจริง จะลงโทษจำเลยเพียงแต่ฟังคำรับสารภาพของจำเลยต่อเจ้าพนักงาน หรือชั้นสอบสวนไม่ได้ แม้จำเลยจะรับสารภาพต่อศาลในครั้งแรก เช่นคดีนี้โดยไม่มีพยานโดยตรงหรือพฤติการณ์อื่นมาประกอบด้วยแล้วยังไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้องโจทก์ ฝิ่นของกลางริบ.

Share